SIGN IN YOUR ACCOUNT TO HAVE ACCESS TO DIFFERENT FEATURES

FORGOT YOUR PASSWORD?

FORGOT YOUR DETAILS?

AAH, WAIT, I REMEMBER NOW!

Siam Collection

  • LOGIN
  • หน้าแรก
  • พระเครื่องและวัตถุมงคล
    • พระมหากษัตริย์
    • พระเกจิอาจารย์
    • พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์
    • เทพเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์
    • ล็อกเก็ตและภาพถ่าย
    • เครื่องรางของขลัง
    • ปันกันชม
  • ศิลปะและของสะสม
  • สินค้า
    • สินค้าพร้อมจำหน่าย
    • สินค้าโปรโมชั่น
    • สินค้ายอดนิยม
    • สินค้าแนะนำ
    • สินค้าฝากขาย
    • สินค้าโชว์
    • สินค้าทั้งหมด
  • ประมูล
  • บทความ
  • เกี่ยวกับเรา
    • ติดต่อเรา
    • รับเช่า
    • รับทำเว็บไซต์พระเครื่อง
    • โฆษณากับเรา
    • สารบัญเว็บ
    • ข่าว
  • สั่งซื้อ-ชำระเงิน
    • วิธีซื้อสินค้า – วิธีชำระเงิน
    • วิธีประมูล – วิธีชำระเงินประมูล
    • แจ้งยืนยันการชำระเงิน
  • สมาชิก
    • My account
    • สมัครสมาชิก
  • No products in cart.
เข้าสู่ระบบ
  • Home
  • เทพเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์
  • พญานาค
  • ตำนานความเชื่อโบราณเกี่ยวกับพญานาค
scadmin
วันจันทร์, 19 เมษายน 2021 / Published in พญานาค

ตำนานความเชื่อโบราณเกี่ยวกับพญานาค

พญานาคเป็นสัตว์ในตำนานที่หลายคนยังหาคำตอบไม่ได้ บ้างก็ว่ามีอยู่จริง บ้างก็ว่าไม่มีจริง แต่ว่าในปัจจุบันก็ยังคงมีข่าวว่าพบเจอพญานาคกันอยู่เรื่อยๆ เป็นระยะๆ บางคนเชื่อ (หรือถึงกับงมงาย) แต่ในทางกลับกัน บางคนก็ยังคงค้างคาอยู่ในใจว่าสิ่งที่พวกเค้าเจอนั้นมันคืออะไรกันแน่ เราลองมาอ่านตำนานความเชื่อต่างๆ ที่เกี่ยกับพญานาคกันดูครับ เผื่อบางที บทความนี้จะไขข้อข้องใจให้ท่านทั้งหลายได้บ้าง

ตำนานพญานาค

นาค หรือ พญานาค งูใหญ่มีหงอน สัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์ ความมีวาสนา และนาคยังเป็นสัญลักษณ์ของบันไดสายรุ้งสู่จักรวาล

นาคเป็นเทพเจ้าแห่งท้องน้ำ บางแห่งก็ว่าเป็นเทพเจ้าแห่งฟ้า

ตำนานความเชื่อเรืองพญานาคมีความเก่าแก่มาก ดูท่าว่าจะเก่ากว่าพุทธศาสนาอีกด้วย สืบค้นได้ว่ามีต้นกำเนิดมาจากอินเดียใต้ ด้วยเหตุจากภูมิประเทศทางอินเดียใต้เป็นป่าเขา จึงทำให้มีงูอยู่ชุกชุม และด้วยเหตุที่งูนั้นลักษณะทางกายภาพคือมีพิษร้ายแรง งูจึงเป็นสัตว์ที่มนุษย์ให้การนับถือว่ามีอำนาจ ชาวอินเดียใต้จึงนับถืองู

ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังมีตำนานเรื่องพญานาคอย่างแพร่หลาย ชาวบ้านในภูมิภาคนี้มักเชื่อกันว่าพญานาคอาศัยอยู่ในแม่น้ำโขง หรือเมืองบาดาล และเชื่อกันว่าเคยมีคนเคยพบรอยพญานาคขึ้นมาในวันออกพรรษา โดยจะมีลักษณะคล้ายรอยของงูขนาดใหญ่ และเมื่อไปเล่นน้ำในแม่น้ำโขง ควรยกมือไหว้เพื่อเป็นการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ลักษณะของพญานาคตามความเชื่อในแต่ละภูมิภาคจะแตกต่างกันไป แต่พื้นฐาน คือ พญานาคนั้นมีลักษณะตัวเป็นงูตัวใหญ่ มีหงอนสีทอง และตาสีแดง เกล็ดเหมือนปลา มีหลายสีแตกต่างกันไปตามบารมี บ้างก็มีสีเขียว บ้างก็มีสีดำ หรือบ้างก็มี 7 สี และที่สำคัญคือ นาคตระกูลธรรมดาจะมีเศียรเดียว แต่ตระกูลที่สูงขึ้นไปนั้นจะมีสามเศียร ห้าเศียร เจ็ดเศียร และเก้าเศียร นาคจำพวกนี้จะสืบเชื้อสายมาจาก “พญาเศษนาคราช (อนันตนาคราช)” ผู้เป็นบัลลังก์ของพระวิษณุนารายณ์ปรมนาท ณ เกษียณสมุทร อนันตนาคราชนั้นเล่ากันว่ามีกายใหญ่โตมหึมา มีความยาวไม่สิ้นสุด มีพันศีรษะ พญานาคนั้นมีทั้งเกิดในน้ำและบนบก เกิดจากครรภ์และจากไข่ มีอิทฤทธิ์สามารถบันดาลให้เกิดคุณและโทษได้ นาคนั้นมักจะแปลงร่างเป็นมนุษย์รูปร่างสวยงาม

ขอบคุณภาพจาก https://pantip.com/topic/36029285/desktop

ความเชื่อเกี่ยวกับคุณลักษณะและคุณสมบัติ

พญานาค หรือ งูใหญ่มีหงอน ในตำนานของฝรั่ง หรือชาวตะวันตก ถือว่าเป็นตัวแทนของกิเลส ความชั่วร้าย ตรงข้ามกับชาวตะวันออก ที่ถือว่างูใหญ่ พญานาค มังกร เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พลังอำนาจ ชาวฮินดูถือว่าพญานาคเป็นผู้ใกล้ชิดกับเทพองค์ต่างๆ เป็นเทพเจ้าแห่งน้ำ เช่น อนันตนาคราช ที่เป็นบัลลังก์ของพระนารายณ์ ตรงกับความเชื่อของลัทธิพราหมณ์

  • พญานาค งูใหญ่ มีหงอน สัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์ ความมีวาสนา และบันไดสายรุ้งสู่จักรวาล เป็นผู้มีอิทธิฤทธิ์ จากการจำศีล บำเพ็ญภาวนา ศรัทธาในพุทธศาสนา ไม่เบียดเบียนผู้อื่น เราจะพบเห็นเป็นรูปปั้นหน้าโบสถ์ ตามวัดต่างๆ บันไดขึ้นสู่วัดในพุทธศาสนา ภาพเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับศาสนาพุทธอีกมากมาย
  • พญานาคแปลงกายได้ ถึงแม้จะเนรมิตกายเป็นอะไรก็ได้ แต่ในสภาวะ 5 อย่างนี้ จะต้องปรากฏเป็นงูใหญ่เช่นเดิม คือ ขณะเกิด ขณะลอกคราบ ขณะสมสู่กันระหว่างนาคกับนาค ขณะนอนหลับโดยไม่มีสติ และที่สำคัญ ตอนตาย ก็กลับเป็นงูใหญ่เหมือนเดิม
  • พญานาคอาศัยอยู่ใต้ดิน หรือบาดาล คนโบราณเชื่อว่าเมื่อบนสวรรค์มีเทพอาศัยอยู่ ลึกลงไปใต้พื้นโลกก็น่าจะมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ ในหนังสือไตรภูมิพระร่วง กล่าวว่า ที่ที่นาคอยู่นั้นลึกลงไปใต้ดิน 1 โยชน์ หรือ 16 กิโลเมตร มีปราสาทราชวังที่วิจิตรพิสดารไม่แพ้สวรรค์ ที่มีอยู่ถึง 7 ชั้น เรียงซ้อนๆ กัน ชั้นสูงๆ ก็จะมีความสุขเหมือนสวรรค์
  • พญานาคสามารถผสมพันธุ์กับสัตว์ชนิดอื่นได้ แปลงกายแล้วผสมพันธุ์กับมนุษย์ได้ เมื่อนาคตั้งท้องจะออกลูกเป็นไข่เหมือนงู มีทั้งพันธุ์เศียรเดียว สามเศียร ห้าเศียร และเจ็ดเศียร สามารถขึ้นลงตั้งแต่ใต้บาดาล พื้นโลก จนถึงสวรรค์ ในทุกตำนานมักจะกล่าวถึงนาคที่ขึ้น-ลง ระหว่างเมืองบาดาลกับเมืองสวรรค์ ที่จะแปลงกายเป็นอะไรตามที่คิด ตามสภาวะเหตุการณ์นั้นๆ

จะเห็นว่า พญานาคหรืองูใหญ่นั้น มีความเป็นมาและถิ่นที่อยู่เป็นสัดส่วนในภพหนึ่งต่างหาก จะมีเป็นบางครั้งที่มนุษย์สามารถมองเห็นได้ พญานาคเป็นทั้งเอกลักษณ์ของความดี และความไม่ดี

ขอบคุณภาพจาก https://pantip.com/topic/36029285/desktop

ความเชื่อเกี่ยวพันกับชีวิต น้ำ ธรรมชาติ

พญานาคเป็นสัญลักษณ์แห่งธาตุน้ำ “นาคให้น้ำ” เป็นเกณฑ์ที่ชาวบ้านรู้และเข้าใจดี ที่ใช้วัดในแต่ละปี จำนวนนาคให้น้ำมีไม่เกิน 7 ตัว ถ้าปีไหนอุดมสมบูรณ์มีน้ำมาก เรียกว่า “นาคให้น้ำ 1 ตัว” แต่หากปีไหนแห้งแล้งเรียกว่าปีนั้น “มีนาคให้น้ำ 7 ตัว” จะวัดกลับกันกับจำนวนนาค ก็คือที่น้ำหายไป เกิดความแห้งแล้งนั้นก็เพราะพญานาคเกี่ยงกันให้น้ำ แต่ละตัวจึงกลืนน้ำไว้ในท้อง ไม่ยอมพ่นน้ำลงมา

เกี่ยวข้องกับคนไทย

เรามักจะเห็นสัญลักษณ์ที่เกี่ยวกับนาคได้เสมอ ในงานจิตรกรรม ประติมากรรม และหัตถกรรม นาคเป็นส่วนประกอบที่สำคัญทางสถาปัตยกรรม โดยเฉพาะตามอาคารวัดต่างๆ หลังคาอาคารที่สร้างขึ้นสำหรับสถาบันพระมหากษัตริย์ และสถานบันศาสนสถาน ตามคตินิยมที่ว่า “นาคยิ่งใหญ่ คู่ควรกับสถาบันอันสูงส่ง” เช่น นาคสะดุ้ง ที่ทอดลำตัวยาวตามบันได นาคลำยอง ที่ทำเป็นป้านลมหลังคาโบสถ์ ที่ต่อเชื่อมกับนาคสะดุ้ง นาคเบือน นาคจำลอง และนาคทันต์ คันทวยรูปพญานาค

ขอบคุณภาพจาก https://pantip.com/topic/36029285/desktop

พญานาคกับตำนานในพระพุทธศาสนา

ตามตำนาน พญานาค มีอยู่ก่อนสมัยพระพุทธเจ้าแล้ว ดังเช่น หลังจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมพิเศษแล้ว ได้เสด็จไปตามเมืองต่างๆ เพื่อแสดงธรรมเทศนา มีครั้งหนึ่งได้เสด็จออกจากร่มไม้อธุปปาลนิโครธ ไปยังร่มไม้จิกชื่อ “มุจลินท์” ทรงนั่งเสวยวิมุตติสุข อยู่ 7 วัน คราวเดียวกันนั้น มีฝนตกพรำๆ ประกอบไปด้วยลมหนาวตลอด 7 วัน ได้มีพญานาคชื่อ “มุจลินท์” เข้ามาวงด้วยขด 7 รอบ พร้อมกับแผ่พังพานปกพระผู้มีพระภาคเจ้า เพื่อจะป้องกันฝนตกและลมมิให้ถูกพระวรกาย หลังจากฝนหายแล้ว คลายขนดออก แปลงเพศเป็นมานพมายืนเฝ้าที่เบื้องพระพักตร์ ด้วยความศรัทธาอย่างแรงกล้า

ความเชื่อดังกล่าวทำให้ชาวพุทธสร้างพระพุทธรูปปางนาคปรก แต่มักจะสร้างแบบพระนั่งบนตัวพญานาค ซึ่งดูเหมือนว่าเอาพญานาคเป็นบัลลังก์ เพื่อให้เกิดความสง่างาม และทำให้คิดว่า พญานาคคือผู้คุ้มครองพระศาสดา

นาคสะดุ้ง … ที่ราวบันไดโบสถ์นั้น ได้สร้างขึ้นตามความเชื่อถือ “บันไดนาค” ก็ด้วยความเชื่อดังกล่าว แม้ตอนที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงมาจากดาวดึงส์ ก็โดยบันไดแก้วมณีสีรุ้ง ที่เทวดาเนรมิตขึ้น และมีพญานาคจำนวน 2 ตน เอาหลังหนุนบันไดไว้

ขอบคุณภาพจาก https://pantip.com/topic/36029285/desktop

ความเชื่อในดินแดนต่างๆ ของไทย

รูปพญานาคแกะสลัก ประดับราชรถพระโกศของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนา ปัจจุบันเก็บรักษาอยู่ที่โรงเมี้ยนโกศ วัดเชียงทอง หลวงพระบาง ในด้านของดินแดนสยามหรือประเทศไทยของเรานั้น ก็มีความเชื่อเรื่องนาคปรากฏอยู่มากมาย

ภาคเหนือ
มีตำนานเกี่ยวกับพญานาคอยู่เช่นกัน ดังในตำนานสิงหนวัติ ซึ่งเป็นตำนานเก่าแก่ของทางภาคเหนือเอง “เมื่อเจ้าเมืองสิงหนวัติอพยพคนมาจากทางเหนือ พญานาคแปลงกายมาช่วยชี้ที่ตั้งเมืองใหม่ และขอให้อยู่ในทศพิธราชธรรม พอตกกลางคืนก็ขึ้นมาสร้างคูเมือง เป็นเมืองนาคพันธุ์สิงหนวัติ ต่อมายกทัพปราบเมืองอื่นได้ และรวมดินแดนเข้าด้วยกัน จึงเปลี่ยนชื่อเป็น แคว้นโยนกนคร ต้นวงศ์ของพญามังราย ผู้ก่อกำเนิดอาณาจักรล้านนานั่นเอง”

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นาคล้วนมีส่วนร่วมในตำนานอย่างชัดเจน เช่น ผู้คนที่อาศัยอยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำโขงเชื่อว่า แม่น้ำโขงเกิดจากการแถตัวของพญานาค นอกจากนี้ยังรวมถึงบั้งไฟพญานาค โดยมีตำนานว่า ในวันออกพรรษา หรือเป็นวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ พญานาคแห่งแม่น้ำโขงต่างชื่นชมยินดี จึงเฮ็ด (จุด) บั้งไฟ ถวายการเสด็จกลับของพระพุทธเจ้า จนกลายเป็นประเพณีทุกปี และเนื่องจากเชื่อว่าพญานาคเป็นเจ้าบาดาล เป็นผู้ให้กำเนิดน้ำ ดังนั้นเมื่อชาวนาจะทำพิธีแรกไถนา จึงต้องดูวัน เดือน ปี และทิศที่จะบ่ายหน้าควาย เพื่อไม้ให้ควายลากไถไปในทิศที่ทวนเกล็ดนาค ไม่อย่างนั้นการทำนาจะเกิดอุปสรรคต่างๆ ขึ้น นับว่าเป็นเรื่องเหลือเชื่อ และเป็นสิ่งมหัศจรรย์แห่งลุ่มแม่น้ำโขงที่แท้จริง เพราะลูกไฟประหลาดหรือที่เรียกว่า “บั้งไฟพญานาค” นี้ เกิดขึ้นเฉพาะในเขต จ.หนองคาย เท่านั้น ตามแนวแม่น้ำโขง ไม่มีขึ้นที่อื่น แม้จะอยู่ตามริมแม่น้ำโขงเช่นกัน จึงนับได้ว่า หนองคายกับเวียงจันทน์ สมัยก่อนนั้นการปกครองและการสร้างเมืองโดยพญานาค จึงได้รับอิทธิพลนี้เช่นกัน ถึงแม้ว่าจะถูกแยกการปกครอง และแยกประเทศออกจากกัน แต่ในความเป็นจริงทางภูมิศาสตร์ก็เป็นพื้นที่เดียวกัน ตำนานประเพณีต่างๆ ของคนแถบลุ่มแม่น้ำโขง จะเกี่ยวข้องกับพญานาคกันทั้งนั้น เพราะพญานาค หมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ทางการเกษตร และความเป็นอยู่ของมนุษย์

ขอบคุณภาพจาก https://pantip.com/topic/36029285/desktop

พญานาคกับตำนานปรัมปราของไทย

ใต้เมืองโพนพิสัย

ลักษณะของอำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ด้านหัวเมืองจะมีลำห้วยหลวงไหลออกมา เรียกว่า ปากห้วยหลวง ตรงข้ามกับอำเภอโพนพิสัย คือ บ้านโดน ที่ขึ้นกับเมืองปากงึม ทุกวันนี้มีเรื่องเล่าขานเกี่ยวกับเมืองบาดาลที่เชื่อว่าอยู่ใต้อำเภอโพนพิสัย ว่า ในหน้าแล้งจะมีหาดทรายขึ้นกลางแม่น้ำโขง แต่บริเวณอำเภอโพนพิสัย หาดทรายนี้จะขึ้นอยู่ฝั่งลาว บริเวณบ้านโดน วันหนึ่งในหน้าแล้งตอนเที่ยงวัน ได้มีหญิงสาวชาวบ้านโดนคนหนึ่ง ได้ลงมาตักน้ำเพื่อไปดื่ม โดยมีกระป๋องน้ำ (หาบครุ) ลงมาที่หาดทราย เพราะบริเวณนั้นมีน้ำออกบ่อ (น้ำริน) เมื่อลงมาแล้วได้หายไป ชาวบ้านลงมาเห็นแต่กระป๋องน้ำ (หาบครุ) พ่อ แม่ ต่างก็ตามหากัน แต่ไม่พบ จนครบ 7 วัน เมื่อไม่เห็นลูกสาว และคิดว่าลูกสาวคงจมน้ำตายแล้ว จึงได้พร้อมกับญาติพี่น้อง ชาวบ้าน จัดทำบุญอุทิศให้ ในตอนกลางคืนก็มีหมอลำสมโภช

จนเวลาต่อมา เวลาประมาณเที่ยงคืน ลูกสาวคนที่เข้าใจว่าจมน้ำตาย ก็ปรากฏตัวขึ้นที่บ้าน ขณะที่ชาวบ้านกำลังฟังหมอลำกันอยู่ ทำให้ญาติพี่น้องแตกตื่นกันเป็นอย่างมาก บางคนก็วิ่งหนีเพราะคิดว่าเจอผีหลอกเข้า สุดท้ายลูกสาวจึงได้เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟัง หลังจากที่ตั้งสติได้แล้ว ญาติพี่น้องก็เข้ามาร่วมวงนั่งฟัง หญิงสาวเล่าให้ทุกคนฟังว่า

“วันนั้นอากาศร้อนมาก น้ำดื่มหมดโอ่ง เมื่อลงไปเพื่อจะตักน้ำ เมื่อวางกระป๋องน้ำ (หาบครุ) ปรากฏว่าเห็นมีหมู เหมือนกับว่าได้ยกเท้าหน้าเรียกให้เข้าไปหา ตนได้เดินเข้าไปหา แล้วหมูตัวนั้นก็บอกว่าให้หลับตา จะพาลงไปเมืองบาดาล พอหลับตาได้สักครู่ หมูตัวนั้นก็บอกให้ลืมตา

เมื่อลืมตาขึ้น ปรากฏว่าตนมาอยู่อีกเมืองหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะเหมือนกับเมืองมนุษย์ มีดิน มีบ้านเรือนเรียงรายกันอยู่ แต่จะมีแปลกก็ตรงที่ ทุกคนจะนุ่งผ้าแดง และมีผ้าพันศีรษะเป็นสีแดงเหมือนกัน โดยด้านหน้าจะปล่อยให้ผ้าแดงห้อยลงเหมือนกับหัวงู เมื่อเดินตามชายคนนั้น (กลับร่างหมู กลายเป็นคน) ก็มีชาวบ้านถามกันว่า นำมนุษย์ลงมาทำไม (เพราะกลิ่นมนุษย์ต่างกับเมืองบาดาล) ชายคนนั้นก็บอกว่าพามาเที่ยวดูเมือง ได้เดินไปเรื่อยๆ เมื่อแหงนหน้ามองดูท้องฟ้า กลับปรากฏว่าเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ เหมือนสีขุ่นๆ ของน้ำ

ชายคนนั้นได้บอกว่า นี่เป็นเมืองบาดาล และเป็นเมืองหน้าด่าน ส่วนตัวเมืองหลวงนั้นยังอยู่อีกไกล และชาวเมืองจะมีงานสมโภชเมื่อถึงวันออกพรรษาของเมืองมนุษย์ ซึ่งถือว่าตลอด 3 เดือน ที่เข้าพรรษานั้น เหล่าชาวเมืองที่นี่ก็จะจำศีลปฏิบัติธรรมเพื่อเป็นการบูชาพระพุทธเจ้า หลังจากที่เดินชมเมืองอยู่ไม่นาน ชายคนนั้นก็ได้นำขึ้นมาส่ง โดยการเดินมาทางเดิม ก็เป็นการเดินมาเรื่อยๆ แต่ได้ขึ้นมายืนอยู่บริเวณหาดทรายเหมือนเดิม แล้วก็ได้ขึ้นมาหาพ่อ แม่ นี้”

จากการเล่าของลูกสาว พ่อ แม่ ญาติพี่น้องจึงได้จัดงานทำบุญทำพิธีสู่ขวัญ เพื่อเป็นการต้อนรับขวัญให้กับลูกสาว ต่อมาอีก 7 วัน ลูกสาวก็ได้เจ็บป่วย และเสียชีวิตในที่สุด (เหตุการณ์นี้สอบถามได้จากผู้เฒ่า ผู้แก่ชาวโพนพิสัย คุ้มวัดศรีเกิดได้)

ทั้งหมดนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เราไม่ขอแนะนำให้ทุกคนเชื่อแบบงมงายครับ …

ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : wikipedia , www.amulet.in.th

ที่มา : sanook.com

Post Views: 1,071
Tagged under: ความเชื่อ, ความเชื่อโบราณ, ตำนานความเชื่อเรื่องพญานาค, ตำนานพญานาค, บั้งไฟพญานาค, พญานาค, พญานาคพ่นไฟ, ใต้เมืองโพนพิสัย

What you can read next

นาคาธิบดีสีสัตตนาคบาดาล (7)
นาคาธิบดีสีสัตตนาคบาดาล (4)
พญาศรีสัตตนาคราช

หมวดหมู่บทความ : บันทึกเพื่อศึกษา

  • บทความ (ทั้งหมด) OK
  • ประวัติการจัดสร้างพระเครื่องและวัตถุมงคล OK
  • พระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ OK
  • พระเกจิอาจารย์ OK
    • ประวัติพระเกจิอาจารย์ OK
    • หลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร OK
    • หลวงพ่อน้อย ชุตินฺธโร OK
    • หลวงพ่ออุ้น สุขกาโม OK
    • หลวงพ่อทรง ฉันทโสภี OK
  • พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ OK
  • เทพเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ OK
  • อาจารย์ฆราวาส OK
  • เครื่องรางของขลัง OK
  • ล็อกเก็ตและภาพถ่าย OK
  • ศิลปะและของสะสม OK
  • ธรรมะและบทสวดมนต์ OK
  • มุมนักสะสม OK

บทความล่าสุด

  • เย็นศิระเพราะพระบริบาล ๘๐ พรรษา มหากษัตริย์คู่แผ่นดินสยาม

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ...
  • โครงการ “เพราะแผ่นดินนี้ คือ แผ่นดินเกิด” ปี ๒๕๕๑

    โครงการ “เพราะแผ่นดินนี้ คือ แผ่นดินเกิด” ปี ๒๕...
  • โครงการ “เพราะแผ่นดินนี้ คือ แผ่นดินเกิด” ปี ๒๕๔๘

    โครงการ “เพราะแผ่นดินนี้ คือ แผ่นดินเกิด” ปี ๒๕...
  • อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล

    ...
  • เครื่องรางของขลังคืออะไร ?

    ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 ให้ควา...

บทความยอดนิยม

  • จตุคามรามเทพ รุ่นโคตรเศรษฐี (7,107)
  • ประวัติท้าวเวสสุวรรณ วัดจุฬามณี (4,486)
  • ประวัติและปฏิปทาหลวงปู่พรหมมา เขมจาโร วัดสวนหินผานางคอย อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี (4,400)
  • ปาฏิหาริย์ “หลวงพ่อสมปรารถนา” แค่ภาพถ่ายยังศักดิ์สิทธิ์ (3,836)
  • หลวงปู่ทวดเบ้าทุบ หล่อโบราณ รุ่น “ชนะคน” วัดสุทัศน์จัดสร้าง ปี 2538 (3,575)
  • ประวัติและปฏิปทา หลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร วัดโฆสิตาราม (วัดบ้านแค) ต.บางขุด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท (3,518)
  • รายละเอียดและจำนวนการจัดสร้างวัตถุมงคลจตุคามรามเทพ รุ่น โคตรเศรษฐี (3,509)
  • ล็อกเก็ตเเละรูปหล่อหลวงพ่อกวยช่วยสร้างพระอุโบสถ (3,457)
  • ประวัติและปฏิปทา หลวงพ่อน้อย ชุตินธโร วัดเนินเวียง (เวียงสวรรค์) ต.บางมะฝ่อ อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ (3,398)
  • พระนักธรรม หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน จ.อ่างทอง (2,962)
  • จตุคามรามเทพ รุ่นอภิปัญญามหาเศรษฐี (2,958)
  • ปาฏิหาริย์สมเด็จเหม็นหลวงพ่ออุ้น เรื่องเล่าจากประสบการณ์จริงของ “ทวี เฮงคราวิทย์” (2,936)
  • ประวัติและปฏิปทา หลวงพ่อชาญณรงค์ อภิชิโต ภิกขุ วัดรัชฎาธิษฐานราชวรวิหาร (วัดเงิน) แขวงคลองชักพระ เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร (2,682)
  • พิธีมหาพุทธาภิเษก จตุคามรามเทพ รุ่นโคตรเศรษฐี (2,606)
  • เปิดที่มาพระสมเด็จเหม็น หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง วัตถุมงคลชื่อดังเพชรบุรี (2,466)

หมวดหมู่สินค้า

  • พระเครื่องและวัตถุมงคล
    • พระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์
    • ล็อกเก็ตและภาพถ่าย
    • พระเกจิอาจารย์
    • พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์
    • เทพเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์
    • พระดี น่าบูชา
  • ศิลปะ รูปภาพ และของสะสม
  • หนังสือ (ศิลปะ-ของสะสม)
  • เหรียญในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงผนวช วัดพนัญเชิง
    600 ฿
    หยิบใส่ตะกร้า
  • ล็อกเก็ตในหลวง รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ รุ่นพระมหามณฑป
    950 ฿
    หยิบใส่ตะกร้า
  • ล็อกเก็ตสมเด็จย่าและสมเด็จพระพี่นาง รุ่นพระมหามณฑป
    800 ฿
    หยิบใส่ตะกร้า
  • ล็อกเก็ตในหลวง รัชกาลที่ 9
    750 ฿
    หยิบใส่ตะกร้า
  • เหรียญหล่อ วชิราลงกรโณ ภิกขุ ปี 2521
    500 ฿
    หยิบใส่ตะกร้า
  • เหรียญในหลวง รัชกาลที่ 9 เฉลิมพระชนมายุครบ 75 พรรษา เนื้อทองแดง
    450 ฿
    หยิบใส่ตะกร้า
  • เหรียญรัชกาลที่ 5 ที่ระลึกเสด็จประพาสยุโรป (100 ปี ไกลบ้าน)
    500 ฿
    หยิบใส่ตะกร้า
  • หนังสือ “A Visionary Monarch” เป็นหนังสือเกี่ยวกับในหลวง รัชกาลที่ 9
    1,500 ฿
    หยิบใส่ตะกร้า
  • ล็อกเก็ตสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
    500 ฿
    หยิบใส่ตะกร้า

พระเครื่องและของสะสม

  • พระเครื่องเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์
  • พระเครื่องและวัตถุมงคลพระเกจิอาจารย์
  • พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์
  • เทพเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์
  • ล็อกเก็ตและภาพถ่าย
  • เครื่องรางของขลัง
  • ศิลปะ รูปภาพ และของสะสม
  • ปันกันชม (โชว์ของสะสม)

สินค้าในร้าน

  • สินค้าพร้อมจำหน่าย
  • สินค้าโปรโมชั่น
  • สินค้ายอดนิยม
  • สินค้าแนะนำ
  • สินค้าฝากขาย
  • สินค้าโชว์
  • สินค้าทั้งหมด
  • สินค้าที่ปิดการขาย

สยามคอลเล็คชั่น

  • เกี่ยวกับเรา – ติดต่อเรา
  • แจ้งยืนยันการชำระเงิน
  • วิธีซื้อสินค้า – วิธีชำระเงิน
  • วิธีประมูล – วิธีชำระเงินการประมูล
  • รับเช่า
  • รับทำเว็บไซต์พระเครื่อง
  • โฆษณากับเรา
  • สมัครสมาชิก

ติดต่อเรา

โทร. 063 639 2524
เฟสบุ๊ค : @SiamCollection.in.th
ไลน์ : @siamcollection

  • GET SOCIAL
Siam Collection

© 2021. All rights reserved.

Flag Counter
Flag Counter
TOP
สอบถาม