บทความนี้เป็นบทความที่คัดลอกมา
ที่มา: ข่าวสดพระเครื่อง | เผยแพร่เมื่อ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๙
พระสมเด็จจิตรลดา พระกำลังแผ่นดิน
“พระสมเด็จจิตรลดา” หรือ “พระกำลังแผ่นดิน” เป็นพระเครื่องที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงสร้างด้วยพระหัตถ์ของพระองค์เอง พระราชทานแก่ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ และพลเรือน ในช่วงระหว่าง พ.ศ. ๒๕๐๘-๒๕๑๓
“พระดีที่มีคุณค่าไม่ต่างจากเพชร” ใครๆ ก็อยากได้มีไว้ในครอบครอง ที่เป็นขวัญกำลังใจ มหามิ่งมงคลของพสกนิกรไทยทั้งประเทศ
จำนวนจัดสร้าง “พระสมเด็จจิตรลดา” มีทั้งสิ้นประมาณ ๒,๔๐๐ องค์ ทุกองค์มีเอกสารส่วนพระองค์ (ใบกำกับพระ) ซึ่งแสดงชื่อ นาม สกุล วันที่รับพระราชทาน หมายเลขกำกับทุกองค์
โดยทรงมีพระราชดำรัสแก่ผู้รับพระราชทานว่า “ให้ปิดทองที่หลังองค์พระปฏิมาแล้วเอาไว้บูชาตลอดไป ให้ทำความดีโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ”
ขณะปิดทองให้ตั้งจิตเป็นสมาธิอธิษฐานขอให้ความดีงามที่มีอยู่ในตัวจงดำรงอยู่ต่อไป และขอให้ยังความเป็นสิริมงคล จงบังเกิดแก่ตัวยิ่งขึ้น อีกทั้งให้ประสบแต่ความสุขความเจริญในทางที่ดีงาม
การปิดทองด้านหลังองค์พระ เป็นปริศนาธรรมบางอย่างที่ทรงมีพระราชดำริในการปลูกฝังนิสัยให้ผู้รับพระราชทานนำไปคิด เป็นทำนองว่า การที่บุคคลใดจะทำกุศลหรือประโยชน์สาธารณะใดๆ พึงมุ่งหวังให้เกิดประโยชน์แก่ผู้อื่นโดยแท้จริง มิได้หวังลาภยศ ชื่อเสียง ตามคติโบราณที่ว่า “ปิดทองหลังพระ”
สำหรับความเป็นมาของการสร้าง “พระสมเด็จจิตรลดา” ในช่วงเวลาก่อนที่จะทรงมีพระราชดำริให้สร้าง “พระพุทธนวราชบพิตร” ในราวปีพุทธ ศักราช ๒๕๐๘ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้ นายไพฑูรย์ เมืองสมบูรณ์ ข้าราชการกองหัตถศิลป์ กรมศิลปากร เข้ามาเป็นผู้แกะแม่พิมพ์พระพุทธรูปพิมพ์นี้ในพระราชฐาน ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงตรวจพระพุทธศิลป์ของพระพุทธรูปพิมพ์องค์นี้ จนเป็นที่พอพระราชหฤทัย
พระพุทธรูปพิมพ์ที่แกะถวายนั้น เป็นพระพุทธรูปพิมพ์นั่งปางสมาธิแบบขัดราบ พระบาทขวาทับพระบาทซ้าย ประทับเหนือดอกบัวบาน บน ๕ กลีบ ล่าง ๔ กลีบ รวมเป็น ๙ กลีบ รูปทรงสามเหลี่ยมหน้าจั่ว ขนาดกว้าง ๒ เซนติเมตร สูง ๓ เซนติเมตร และองค์เล็กขนาดกว้าง ๑.๒ เซนติเมตร สูง ๑.๙ เซนติเมตร
พระองค์ได้ทรงสร้างขึ้นด้วยพระหัตถ์ของพระองค์เอง โดยทรงใช้เวลาหลังจากทรงพระอักษร และทรงงาน อันเป็นพระราชภารกิจในตอนดึก
ประกอบด้วยผงมงคลอันศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ทั้งส่วนในพระองค์ และวัตถุมงคลศักดิ์สิทธิ์จากทุกจังหวัดที่พุทธศาสนิกชนทั่วพระราชอาณาจักรปฏิบัติบูชาสืบเนื่องกันมาเป็นเวลาช้านาน
ส่วนความแตกต่างของพุทธลักษณะขององค์พระสมเด็จจิตรลดาพิมพ์ใหญ่ในแต่ละปี มีความแตกต่างกันออกไป ซึ่งสามารถพอจะแยกจุดเด่นๆ ขององค์พระสมเด็จจิตรลดาพิมพ์ใหญ่ ตั้งแต่ทรงสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๘ ถึงปี พ.ศ. ๒๕๑๓
สังเกตดูตามลักษณะพิมพ์ทรง ความคมลึกชัดขององค์พระในแต่ละปีไม่เท่ากัน ซึ่งเข้าใจว่าเกิดจากการที่ทรงถอดจากแม่พิมพ์หินเป็นแม่พิมพ์ยาง และตกแต่งแม่พิมพ์ ดูจากเนื้อสีวัสดุที่เป็นส่วนผสม ทำให้มวลสารวัตถุมงคลต่างๆ แข็งตัวรวมกันเป็นองค์พระ ซึ่งพระสมเด็จจิตรลดาพิมพ์ใหญ่จะมีสีสันขององค์พระในแต่ละปีค่อนข้างจะดูแตกต่างกัน
ลักษณะด้านหลัง ด้านข้างสันขอบขององค์พระ และความหนาความบางขององค์พระ ซึ่งในแต่ละปีจะมีความแตกต่างกัน สังเกตได้ชัดเจนพอสมควร และลักษณะการเก็บงานความเรียบร้อยหลังจากทรงเทพิมพ์เป็นองค์พระแล้ว
สำหรับพุทธลักษณะขององค์พระสมเด็จจิตรลดาพิมพ์เล็ก ตามประวัติที่ทรงสร้างประมาณว่ามีไม่มากนัก และทรงมีการพระราชทานให้เพียง ๒ ปี เท่านั้น คือปี พ.ศ. ๒๕๐๘ และปี พ.ศ. ๒๕๐๙ ดูเหมือนจะหาความแตกต่างไม่ได้ สำหรับพระสมเด็จจิตรลดาพิมพ์เล็กในแต่ละปี ปัจจุบันความนิยมใน “พระสมเด็จจิตรลดา” มีมากขึ้นเรื่อยๆ