บทความนี้เป็นบทความที่คัดลอกมา
ที่มา: ข่าวสดพระเครื่อง | เผยแพร่เมื่อ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๙
พระพุทธรูป ภปร รุ่นแรก (กฐินต้น) พ.ศ. ๒๕๐๖ วัดเทวสังฆาราม จังหวัดกาญจนบุรี
วัดเทวสังฆาราม (วัดเหนือ) อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เป็นพระอารามหลวงที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และเป็นวัดที่เก่าแก่วัดหนึ่งที่มีอายุเกินกว่า ๑๐๐ ปี
อีกทั้งมีความสำคัญต่อท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์ เป็น สามเณรเจริญ คชวัตร กระทั่งได้ย้ายมาประทับจำพรรษา ณ วัดบวรนิเวศวิหาร
ภายหลังได้ทรงเป็นพระอภิบาล (พระพี่เลี้ยง) พระภิกษุพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือ “พระภูมิพโลภิกขุ” เมื่อครั้งยังดำรงพระสมณ ศักดิ์ที่ “พระโศภนคณาภรณ์”
ด้วยความสำคัญดังกล่าว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จฯ ทรงประกอบพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทานเป็นการส่วนพระองค์ ในปีพุทธศักราช ๒๕๐๖ ณ วัดเทวสังฆาราม (วัดเหนือ) ด้วยพระราชศรัทธาประสาทะ
“พระเทพมงคลรังสี” (ดี พุทธโชติ) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ “พระมงคลรังสีวิสุทธิ์” และเป็นเจ้าอาวาสในขณะนั้น พร้อมด้วยคณะกรรมการ ประกอบด้วย หลวงกัมปนาทแสนยากร เป็นประธาน และ พระสาสนโสภณ (สมณศักดิ์ในขณะนั้นของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก) เป็นที่ปรึกษา
ได้มีความเห็นพร้อมกันว่า ในการพระราชพิธีนี้ นับเป็นมหามงคลโอกาสควรจัดสร้างพระพุทธรูปปางประทานพรเป็นที่ระลึกและเพื่อให้ประชาชนได้มีไว้สักการบูชา โดยขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเชิญ “อักษรพระปรมาภิไธย ภ.ป.ร.” ประดับเหนือผ้าทิพย์ ซึ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานพระบรม ราชานุญาตทุกประการ
กล่าวสำหรับพระพุทธรูปที่จัดสร้างนั้น ได้ขออนุญาตใช้แบบพระพุทธรูปของโรงพยาบาลศิริราชที่สร้างขึ้นในคราวงานฉลองครบรอบ ๗๒ ปี มาเป็นแบบ โดยแก้ไขให้นิ้วพระหัตถ์กระดิกมากขึ้น พร้อมเพิ่มผ้าทิพย์ประดับ “อักษรพระปรมาภิไธย ภ.ป.ร.” ที่ฐานด้านหน้า และมอบให้ช่างปั้นชุดเดียวกับที่ปั้นหล่อ “พระพุทธรูปฉลอง ๗๒ ปีโรงพยาบาลศิริราช”
ส่วนแผ่นโลหะที่จะใช้บรรจุในเบ้าหล่อพระพุทธรูป คณะกรรมการได้นิมนต์ไปให้พระคณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณในยุคนั้น ลงอักขระเลขยันต์คาถาแห่งละ ๑๗ แผ่น อาทิ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อยู่ ญาโณทยมหาเถระ) วัดสระเกศราชวรวิหาร กรุงเทพฯ, พระราชธรรมาภรณ์ (หลวงพ่อเงิน) วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม, หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม จ.นครปฐม, หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก จ.พระนครศรีอยุธยา และพระคณาจารย์ที่เข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษกอีกหลายรูป
ส่วนแผ่นโลหะ ทองคำ นาก เงิน อย่างละ ๓๔ แผ่น รวมทั้งหมด ๑๐๒ แผ่น สำหรับทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อทรงบรรจุในเบ้าหล่อพระพุทธรูปนั้น พระมงคลรังสีวิสุทธิ์ (หลวงปู่ดี พุทธโชติ) เป็นผู้ลงอักขระยันต์ตามสูตรของวัดเทวสังฆาราม
กำหนดการเทหล่อพระพุทธรูป วันเสาร์ที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๐๖ หลังการเสด็จฯ ถวายผ้าพระกฐินพระราชทานแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิรา ลงกรณ์ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญาฯ เสด็จเข้ามณฑลพิธี ทรงบรรจุแผ่น ทองคำ นาก เงิน ลงในเบ้าหลอม “พระพุทธรูป ภปร” ทั้ง ๑๗ เบ้า โดยมีพระมหาเถระและพระเถระ ๙ รูป ตลอดทั้งพระสงฆ์ในบริเวณมณฑลพิธี ๒๐ รูป เจริญชัยมงคลคาถา โหรลั่นฆ้องชัย เสร็จแล้วเสด็จออกจากมณฑลพิธี
วัดเทวสังฆารามได้ประกอบพิธีพุทธาภิเษกก่อนมอบให้แก่ผู้สั่งจอง โดยรายได้จากการบูชาพระพุทธรูป ภ.ป.ร. ครั้งนั้น ได้นำไปใช้ในการบูรณะวัดเทวสังฆาราม สร้างฌาปนสถาน และซื้อที่ดินถวายวัดเพิ่มเติมสำหรับจัดสร้างโรงเรียนมัธยมวัดเทวสังฆาราม
พระพุทธรูป ภ.ป.ร. รุ่นแรก (กฐินต้น) พ.ศ. ๒๕๐๖ วัดเทวสังฆาราม เป็นพระพุทธรูปปางประ ทานพร ศิลปะสุโขทัยประยุกต์ ประดับผ้าทิพย์ ภ.ป.ร. พระพุทธรูปมีพุทธลักษณะงดงาม มีการจัดสร้างด้วยกัน ๒ ขนาด ได้แก่ ขนาดหน้าตัก ๕ นิ้ว และขนาดหน้าตัก ๙ นิ้ว จัดสร้างเป็นเนื้อทองผสมและรมดำ ใต้ฐานเทหล่อด้วยดินไทยโบราณ
นอกจากการจัดสร้างพระบูชา ในพิธีพุทธาภิเษกที่จัดขึ้นนี้ นอกจากพระพุทธรูปบูชา ภ.ป.ร. ยังได้มีการจัดสร้างเป็นเหรียญวัตถุ มงคล เรียกว่า “เหรียญพระกฐินต้น พ.ศ. ๒๕๐๖ วัดเทวสังฆาราม”
ลักษณะเป็นเหรียญรูปทรงกลม มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเนื้อทองคำ เนื้อเงิน และเนื้ออัลปาก้า จำนวนการสร้างไม่ได้มีการระบุไว้แน่ชัด
ด้านหน้าเหรียญ ตรงกลางเป็นรูปพระพุทธสุทธิมงคล ซึ่งเป็นพระประธานในพระอุโบสถหลังใหม่ของวัดเทวสังฆาราม ด้านบน เขียนคำว่า “พระพุทธสุทธิมงคล” ใต้รูปเหมือนพระประธาน เขียนคำว่า “วัดเทวสังฆาราม-พระอารามหลวง”
ด้านหลังเหรียญ ตรงกลางเหรียญเป็นรูปช้างสามเศียร ด้านข้างช้างสามเศียร เป็นเทวดา ๒ องค์ ด้านบนช้างสามเศียร เขียนคำว่า “ในการเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน” ใต้รูปช้างสามเศียร เขียนคำว่า “๒๖ ตุลาคม ๒๕๐๖” ซึ่งตราช้างสามเศียรนี้ได้ใช้เป็นโค้ดที่ตอกอยู่บริเวณด้านหลังพระพุทธรูป ภ.ป.ร. ปี ๒๕๐๖
จำเนียรกาลผ่านมาจนถึงปัจจุบัน พระพุทธรูป ภ.ป.ร. วัดเทวสังฆาราม ปี ๒๕๐๖ ถือว่าหาได้ยากยิ่ง มีคุณค่าทั้งด้านประติมากรรม ด้านประวัติศาสตร์ และยังเป็นที่จดจำของปวงชนชาวไทย