พระครูนิพัทธ์สารคุณ หรือ หลวงพ่อน้อย ชุตินฺธโร วัดเนินเวียง (เวียงสวรรค์) ต.บางมะฝ่อ อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ที่แม้แต่ “ขุนส่า” อดีตผู้นำกองทัพเมิงไต ยังให้ความนับถือเป็นอาจารย์ และขุนส่ายังได้สักน้ำมันกับท่าน ท่านเป็นพระเกจิย์อาจารย์ท้องถิ่น ที่มีพุทธาคมและพลังจิตสูง เป็นที่พึ่งของชาวบ้านและลูกศิษย์ เป็นที่เคารพของประชาชนในท้องถิ่นและจังหวัดใกล้เคียง ท่านเป็นพระปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ไม่โอ้อวดตน ผู้คนที่ได้ไปกราบนมัสการท่าน จะทราบกันดีว่า “ท่านคมในฝัก” อย่างแท้จริง
อีกทั้งท่านยังเป็นพระเกจิย์อาจารย์ผู้มีเวทย์วิทยาคมแก่กล้า มีพลังจิตสูง สามารถกำราบปราบภูตผีต่างๆ ได้ (ไล่ผีได้) เป็นที่พึ่งของชาวบ้านและลูกศิษย์ต่างแดน ในการรักษาอาการป่วยทางจิต ขับไล่คุณไสย์มนต์ดำ ทั้งยังมีความเชี่ยวชาญในวิชาอาคมต่างๆ ความเฉียบขาด ความดุ และวาจาศักดิ์สิทธิ์ประดุจพระร่วง ท่านเป็นที่กล่าวขานกันมาก จนบรรดาลูกศิษย์ทั้งหลายต่างให้สมญานามว่า “หลวงพ่อปากพระร่วงวาจาสิทธิ์”
หลวงพ่อน้อย ชุตินฺธโร วัดเนินเวียง (เวียงสวรรค์) อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์
ท่านมีนามเดิมว่า “น้อย เหมทอง” เกิดเมื่อวันอังคาร เดือน 6 ปีมะโรง ปี พ.ศ. 2459 ต่อมาเปลี่ยนนามสกุลเป็น “ไพรสิงห์” บิดาของท่านชื่อ “นายนาค ไพรสิงห์” ส่วนมารดาของท่านชื่อ “นางเสี้ยว ไพรสิงห์”
หลวงพ่อน้อย ท่านเป็นบุตรบุญธรรมของ “หลวงพ่อทอง สุวัณโณ” วัดเขากบ (วัดวรนาถบรรพต) ต.ปากน้ำโพ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ พระเกจิที่มีชื่อเสียงติดอันดับ 1 ใน 10 ของพระเกจิแห่งยุค
แรกเริ่มเมื่อตอนเกิดมา หลวงพ่อน้อยท่านมีร่างกายที่ไม่แข็งแรง เจ็บป่วยบ่อย โยมมารดาของท่านจึงได้นำท่านไปฝากกับหลวงพ่อทอง วัดเขากบ เพื่อขอพึ่งบารมีของหลวงพ่อทอง หวังให้ท่านมีร่างกายที่แข็งแรง หายเจ็บป่วยจากโรคภัย หลวงพ่อทองจึงรับไว้ และบวชเณรให้
เริ่มศึกษาวิทยาคม โดยเฉพาะวิชาทำน้ำมนต์
หลวงพ่อน้อยได้ศึกษาร่ำเรียนจากหลวงพ่อทอง วัดเขากบ ท่านดูแลปรนนิบัติอาจารย์ของท่านเป็นอย่างดี ระหว่างที่อยู่กับหลวงพ่อทองนั้น หลวงพ่อทองท่านหยั่งรู้อนาคตในภายภาคหน้าของหลวงพ่อน้อย หลวงพ่อทองจึงมักให้หลวงพ่อน้อยฝึกแทงเข็มลงบนหยวกกล้วย และได้ฝากให้หลวงพ่อน้อยไปเรียนวิชาอักขระเลขยันต์กับหลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ จ.พระนครศรีอยุธยา, หลวงพ่อสิน วัดหนองเต่า จ.อุทัยธานี และหลวงพ่อพริ้ง วัดหาดสูง อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ เจ้าของตำหรับวิชานะซ่อนหัว อันโด่งดัง นับได้ว่าครูบาอาจารย์ของหลวงพ่อน้อย ล้วนแต่เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังทั้งสิ้น
ดูแลอุปัฏฐากหลวงพ่อทอง จวบจนหลวงพ่อทองมรณภาพ
หลวงพ่อน้อยท่านได้ดูแลปรนนิบัติหลวงพ่อทอง ซึ่งเป็นอาจารย์ของท่านอย่างดี จวบจนกระทั่งหลวงพ่อทองได้มรณภาพลง
หลังจากที่หลวงพ่อทองท่านมรณภาพแล้ว หลวงพ่อน้อยจึงได้ลาสิกขา ออกมาใช้ชีวิตแบบฆราวาส ได้เรียนวิชาจากอาจารย์ต่างๆ ในสมัยนั้นหลายท่าน และได้เข้าร่วมกับก๊กเสือต่างๆ ท่านเคยอยู่กับเสือฝ้ายและเสือมเหศวร
อุปสมบทอีกครั้ง เริ่มออกเดินธุดงค์ไปตามสถานที่ต่างๆ
เมื่อท่านได้ค้นพบตัวท่านเองว่า เริ่มเบื่อชีวิตความวุ่นวายแบบฆราวาส จึงตัดสินใจเข้าบวชอีกครั้ง บวชครั้งนี้ เมื่อปี 2493 ที่วัดบางมะฝ่อ โดยมีพระครูนิโรธธรรมประยุตร์ หรือ “หลวงปู่อินทร์ วัดเกาะหงษ์” เป็นพระอุปปัชฌาย์ หลังจากบวชแล้ว ท่านได้เดินธุดงค์ไปตามสถานที่ต่างๆ เมื่อเข้าฤดูเข้าพรรษา ท่านจะกลับมาจำพรรษาที่วัดบางมะฝ่อ ในระหว่างที่ท่านเดินธุดงค์นั่นเอง ท่านก็ได้เริ่มสักยันต์ สร้างประสบการณ์ความเหนียวให้เป็นที่กล่าวขานกันในพื้นที่และต่างแดน
หลวงพ่อน้อย ท่านเป็นพระเกจิยุคหลัง 2500 มีลูกศิษย์ลูกหาในแถบจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี และจังหวัดใกล้เคียง ที่เคารพและศรัทธาท่านจำนวนมาก ด้วยวิชาการสักของท่าน ที่เด่นด้านคงกระพันชาตรียิ่งนัก กล่าวกันว่า เหนียวชนิดที่ว่า แมลงวันไม่ได้กินเลือดกันทีเดียว
แม้แต่อดีตเสือแมน ขุนโจรร้อยศพ ก็ยังมาสักกับท่าน ยันต์ครูห้ายอดของท่าน ขึ้นชื่อลือชาเรื่องคงกระพันยิ่งนัก อีกทั้งยันต์บุตรลภ ยันต์ครูโบราณ ที่ท่านสืบทอดมาจากหลวงพ่อขัน ต่างเป็นที่ต้องการของบรรดาชายชาตรีทั้งหลาย เมื่อปี 2511 ท่านได้ธุดงค์ไปแถบเพชรบูรณ์ และได้สักให้กับทหารที่รบในสมรภูมิเขาค้อ (ผกค.) คมกระสุนและระเบิดไม่สามารถทำอันตรายอะไรกับทหารที่สักกับท่านได้เลย และยิ่งทำให้ทหารต่างพากันมาสักไม่ขาดสาย หลังจากที่ท่านสักในแถบนี้แล้ว ท่านเดินก็ทางธุดงค์ขึ้นสู่ทางเหนือ
อดีตผู้นำกองทัพเมืองไต เดินทางมาฝากตัวเป็นศิษย์
ในช่วงนี้ กิตติศัพท์เรื่องความเหนียวในสมรภูมิรบของท่านโด่งดังมาก ทำให้ทหารหลายกลุ่มต่างตามหาตัวท่าน และในครั้งนี้เอง “ขุนส่า” อดีตผู้นำกองทัพเมิงไต ได้ฝากตัวเป็นศิษย์ท่าน และท่านได้สักน้ำมันให้กับขุนส่า ณ บ้านหินแตก ต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย มีเหตุการณ์หลายต่อหลายครั้ง ที่ทำให้ขุนส่ารอดตาย หนึ่งในนั้นคือขุนส่ารอดจากเหตุการณ์ยุทธการบ้านหินแตก ยิ่งทำให้กลุ่มทหารต่างๆ ตามหาตัวท่านมากขึ้นไปอีก ท่านเลยหนีความวุ่นวาย กลับมาจำพรรษาต่อที่วัดบางมะฝ่อ อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์
ก่อตั้งวัดเนินเวียง
หลวงพ่อน้อยท่านเริ่มก่อตั้ง “วัดเนินเวียง” ขึ้นที่ ต.บางมะฝ่อ อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ เมื่อปี พ.ศ. 2515 โดยใช้ทุนทรัพย์ส่วนตัวที่ได้มาจากการสักยันต์ นำมาซื้อที่ดินได้ทั้งหมด 12 ไร่ แล้วเริ่มลงมือสร้างโบสถ์ สร้างศาลา สร้างกุฏิ ห้องน้ำ และเสนาสนะต่างๆ เงินทั้งหมดเป็นเงินที่ได้จากการบริจาคของลูกศิษย์ทั้งสิ้น โดยไม่เคยเรี่ยไรเงินจากชาวบ้านเลย หลังจากท่านสร้างวัดเนินเวียงสำเร็จแล้ว ท่านก็เริ่มลงมือดำเนินการสร้างโรงเรียนวัดเนินเวียง รวมถึงจัดตั้งกองทุนให้นักเรียน และท่านได้มอบเงินเป็นทุนการศึกษาให้แก่นักเรียน เป็นประจำทุกปี
ท่านได้ย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่วัดเนินเวียงอย่างถาวร และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก
พระเครื่องและวัตถุมงคล ทุกรุ่นล้วนมีประสบการณ์โด่งดัง เป็นที่ประจักษ์
พระเครื่องและวัตถุมงคลที่หลวงพ่อน้อยท่านสร้าง ไม่ว่าจะเป็นเหรียญรูปเหมือน รูปหล่อ พระสมเด็จ ตะกรุด ผ้ายันต์ ปลัดขิก ฯลฯ ทุกรุ่นล้วนต่างมีประสบการณ์โดดเด่น เป็นที่ประจักษ์แก่ศิษย์ผู้เลื่อมใสศรัทธา
พระเครื่องและวัตถุมงคลของท่าน มีประสบการณ์เรื่องความคงกระพันชาตรีและความเหนียวยิ่งนัก เหนียวไม่แพ้วิชาการสักของท่านเลยทีเดียว จากประสบการณ์ของลูกศิษย์ที่ได้บูชาวัตถุมงคลของท่านแล้ว แคล้วคลาด รอดตาย จากคมมีดคมกระสุนมานักต่อนัก วัตถุมงคลของท่านได้รับขนานนามว่า “เสื้อเกราะเนินเวียง” จากเหตุการณ์ของนายสาลี่ น้อยทวี ศิษย์ใกล้ชิดคนสนิทของท่าน ผู้ซึ่งได้รับการขนานนามจากคนในพื้นที่ว่า “แมวเก้าชีวิต” ด้วยเพราะรอดตายมาหลายครั้ง ถูกคนร้ายดักปล้นปาดคอถึง 2 ครั้ง ปาดคอไม่เข้า คมมีดไม่ระคายผิวเลย เนื่องด้วยได้สักยันต์และแขวนเหรียญรุ่นแรกและตระกรุดของหลวงพ่อน้อยไว้ในคอนั่นเอง
มรณภาพอย่างสงบ
ก่อนที่หลวงพ่อน้อยท่านจะมรณภาพ ท่านอาพาธ และเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลโกรกพระ ต่อมาคณะศิษย์ได้ส่งตัวท่านมารักษาต่อที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์
ที่นี่ท่านได้สร้างอภินิหารให้เป็นที่ประจักษ์แก่พยาบาลและศิษย์ใกล้ชิด คือ พยาบาลใช้เข็มฉีดยาท่านไม่เข้า ฉีดจนเข็มหัก ลูกศิษย์ท่านเกลี้ยกล่อมท่านอยู่หลายครั้ง กว่าท่านจะยอมให้ฉีด แต่ก็สุดความสามารถเยียวยาของคณะแพทย์ เนื่องจากท่านชราภาพมาก ท่านจึงมรณภาพลงอย่างสงบ เมื่อปี 2548 สิริอายุ 89 ปี พรรษา 55
ปัจจุบัน สรีระของท่านยังคงอยู่ให้ลูกศิษย์ได้กราบไหว้ และระลึกถึงคุณความดีของท่าน ที่ศาลาวัดเนินเวียง อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์
ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : คุณชาติชาย เกียรติพิริยะ และ คุณบิ๊ก ปากน้ำโพ