ขออนุญาตแบ่งปันประสบการณ์ที่ผมได้รับจากการบูชา “พระสมเด็จคะแนนโภคทรัพย์ จินดามณี” ของ “หลวงพ่อน้อย ชุตินฺธโร” เพื่อร่วมเผยแพร่เกียรติคุณของหลวงพ่อนะครับ
ผมรู้จักหลวงพ่อน้อยโดยบังเอิญ เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2563 จากหน้าเฟสบุ๊คของพี่ท่านหนึ่ง (ขออนุญาตไม่เปิดเผยชื่อพี่เขานะครับ เนื่องจากยังไม่ได้ขออนุญาต) ซึ่งผมก็จำไม่ได้ว่าแอดเป็นเพื่อนกับพี่เขาไว้ตอนไหน
ข้อความที่พี่เขาเขียนไว้ในเฟสบุ๊คของพี่เขามีดังนี้ (ขออนุญาตคัดลอกมาให้อ่านกันครับ)
#แนะนำพระถิ่นบ้าน
#พระสมเด็จคะแนนโภคทรัพย์
หลวงพ่อน้อย วัดเนินเวียง นครสวรรค์
ในยุคที่บ้านเมืองเข้าสู่ยุคข้าวยากหมากแพง โรคภัยระบาด การทำมาหากินยากลำบาก แต่ในความลำบากยังมีพระดีอีกหลวงพ่อหนึ่ง ที่เหล่าลูกศิษย์บูชาติดตัว ล้วนมีประสบการณ์
#ด้านโภคทรัพย์โดยตรง
#ทำธุรกิจค้าขาย ซึ่งรู้ๆ กันดีว่าในยุคนี้ จะประสบความสำเร็จนั้นยากมาก
แต่ผู้ที่บูชาพระของหลวงพ่อ หรือมีวัตถุมงคลของหลวงพ่อ จากการยืนยันของลูกศิษย์หลายๆ คน หลายๆ ที่ หลายๆ จังหวัด
ต่างโจทย์ขานยอมรับ ว่าพระสมเด็จคะแนนของหลวงพ่อรุ่นนี้
#มีพุทธคุณเด่นในเรื่องแก้จน
จะหยิบจะจับอะไร ก็สามารถผันเปลี่ยนเป็นเงิน เป็นทอง ได้อย่างไม่น่าเชื่อ จนเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของศิษย์ทุกคน รวมถึงตัวของผมเองด้วย
จึงไม่แปลกที่ศิษย์ทุกคนจะเรียกพระสมเด็จคะแนนรุ่นนี้ว่า
#พระสมเด็จคะแนนโภคทรัพย์
เมื่อผมได้อ่านข้อความที่พี่เขาโพสต์ไว้จบแล้ว ก็เกิดความสนใจอย่างมาก เนื่องจากช่วงนั้น งานที่ผมทำอยู่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด รายได้ของผมสะดุดและลดลงมากพอสมควร และผมเองก็กำลังมองหาวัตถุมงคลทางด้านเมตตาค้าขายมาบูชาเสริมศิริมงคล เสริมกำลังใจอยู่พอดี
ผมก็เลยทักไปคุยขอความรู้กับพี่เขา และก็ถือโอกาสขอแบ่งบูชา “พระสมเด็จคะแนนโภคทรัพย์ หลวงพ่อน้อย” จากพี่เขามาบูชาติดตัว ซึ่งพี่เขาก็ใจดี เมตตาแบ่งให้ผมบูชา 1 องค์ (พระองค์ที่พี่เขาเมตตาแบ่งมาให้ผมองค์นี้ คือประสบการณ์ครั้งแรกของผมเลยครับ ไว้โอกาสหน้าผมจะเขียนให้อ่านนะครับ เพราะค่อนข้างจะยาวนิดหนึ่งครับ)
หลังจากที่ผมได้พูดคุยขอความรู้ และได้รับแบ่งพระองค์แรกจากพี่เขาแล้ว ผมก็ยังมีความสนใจอยากรู้เรื่องราวของหลวงพ่อน้อยเพิ่มเติมอีก และยังปรารถนาที่จะได้พระของหลวงพ่อน้อยมาเพิ่มอีก เพื่อเก็บไว้ให้ภรรยา ลูก และญาติพี่น้อง ได้บูชาติดตัวกัน
(อ่านถึงตรงนี้ บางท่านอาจสงสัยว่า ทำไมผมถึงไม่ขอแบ่งพระจากพี่เขามาหลายๆ องค์ บอกตรงๆ ครับ ใจจริงผมก็อยากแบ่งมาหลายๆ องค์ แต่ว่าพี่เขาไม่ได้เอามาเปิดให้เช่าบูชา พี่เขาตั้งใจเก็บไว้บูชาเอง แต่พี่เขาเห็นว่าผมอยากได้มาบูชา ก็เลยเมตตาแบ่งมาให้ผม 1 องค์ ผมเกรงใจพี่เขามากๆ เลยไม่กล้ารบกวนขอแบ่งเพิ่มครับ)
เช้าวันที่ 9 มิถุนายน 2563 ผมเริ่มเสิร์ชหาข้อมูลเกี่ยวกับหลวงพ่อน้อยในอินเตอร์เน็ตและในเฟสบุ๊คมาอ่าน และผมก็โชคดี ได้เจอกลุ่มเฟสบุ๊คของหลวงพ่ออยู่ 2 กลุ่ม คือ
- กลุ่ม “หลวงพ่อน้อย ชุตนฺธโร โดย(ชมรมพระเครื่องและวัตถุมงคลหลวงพ่อน้อยวัดเนินเวียง)” และ
- กลุ่ม “หลวงพ่อน้อยวัดเนินเวียง พระอาจารย์อดิเรกวัดหนองทราย ลพ.จ้อยวัดศรีอุทุมพร”
ผมจึงแอดขอเข้าร่วมกลุ่ม และได้เริ่มศึกษาข้อมูลในกลุ่ม และในวันนี้เอง ที่ผมได้มีโอกาสเช่าบูชาพระสมเด็จคะแนนโภคทรัพย์เพิ่มอีก 2 องค์ จากในกลุ่ม “หลวงพ่อน้อย ชุตนฺธโร โดย(ชมรมพระเครื่องและวัตถุมงคลหลวงพ่อน้อยวัดเนินเวียง)”
หลังจากนั้นผมก็เข้าดูข้อมูลในกลุ่มทั้ง 2 กลุ่ม ทุกวัน จนกระทั่งวันที่ 14 มิถุนายน 2563 ผมก็ได้เช่าบูชาพระสมเด็จคะแนนโภคทรัพย์มาเพิ่มอีก 1 องค์ จากในกลุ่ม “หลวงพ่อน้อย ชุตนฺธโร โดย(ชมรมพระเครื่องและวัตถุมงคลหลวงพ่อน้อยวัดเนินเวียง)” เหมือนเดิม
ต่อมาในวันที่ 17 มิถุนายน 2563 ผมก็ได้ขอจองบูชาพระสมเด็จคะแนนโภคทรัพย์ เนื้อทรายเสก อีก 1 องค์ จากน้องท่านหนึ่ง ในกลุ่ม “หลวงพ่อน้อย ชุตนฺธโร โดย(ชมรมพระเครื่องและวัตถุมงคลหลวงพ่อน้อยวัดเนินเวียง)” พระองค์นี้ดูธรรมดาๆ ไม่สวย ไม่คมชัด แต่ก็แปลก ที่ผมเห็นปุ๊บ รักปั๊บ ชอบและอยากได้มาบูชามากๆ
และพระองค์นี้นี่เอง คือจุดเริ่มต้นของประสบการณ์ความเมตตา ที่ผมได้รับจากหลวงพ่อน้อยอย่างมากมาย มากเสียจนผมนับจำนวนครั้งที่หลวงพ่อท่านเมตตาไม่หมดเลยครับ
ติดขัดขัดอะไร อยากขอให้ท่านช่วยเรื่องอะไร แค่เอาพระองค์นี้ใส่มือพนม ระลึกถึงใบหน้าของหลวงพ่อน้อย อธิษฐานในใจบอกกล่าวให้ท่านช่วย ทุกเรื่องสัมฤทธิ์ผลแทบจะในทันที สำเร็จง่ายเหมือน “ลูกขอพ่อ”
ประสบการณ์เรื่องแรกที่ที่ผมได้รับจากพระองค์นี้ (แต่เป็นประสบการณ์ครั้งที่ 2 ที่ผมได้รับจากการบูชาพระของหลวงพ่อน้อย) ก็คือ
ตอนที่ผมขอเช่าพระองค์นี้จากน้องเขา ผมยังไม่พร้อมเรื่องเงิน ผมเลยขอจองน้องเขาไว้ก่อน และนัดวันที่จะโอนเงินกัน น้องเขาก็ตกลง และได้ขอที่อยู่ผมไว้ ซึ่งปกติผมจะไม่ให้ที่อยู่ก่อน ถ้ายังไม่ได้โอนเงิน แต่ครั้งนี้ผมกลับให้น้องเขาไปในทันที (ซึ่งทุกวันนี้ผมก็ยังงงๆ อยู่ว่าทำไมถึงให้น้องเขาไปง่ายๆ)
วันที่ 19 มิถุนายน 2563 เวลา 09.49 น. พระสมเด็จคะแนนโภคทรัพย์ เนื้อทรายเสก เดินทางมาถึงผม ทันทีที่ผมแกะกล่องดูและรู้ว่าเป็นพระองค์นี้ ความกังวลก็เกิดขึ้นทันที เพราะ … ผมยังไม่มีเงินพอที่จะโอนให้น้องเขา และผมก็ไม่คิดว่าน้องเขาจะส่งพระมาให้ผมก่อน เพราะเราไม่เคยรู้จักกัน และเพิ่งซื้อขายกันครั้งนี้เป็นครั้งแรก อีกอย่างหนึ่งก็คือ พระที่ผมจองไว้ก่อนหน้านี้ทั้ง 4 องค์ ก็กำลังจะถึงกำหนดโอนเงินตามที่นัดไว้
ผมคิดไม่ออกว่าจะหาเงินให้ทันได้อย่างไร และไม่ต้องการเสียคำพูด ผมเลยเอาพระใส่มือพนม แล้วระลึกถึงหลวงพ่อน้อย และอธิษฐานในใจบอกหลวงพ่อว่า
“ผมขอบคุณในความเมตตาของหลวงพ่อ ที่มอบพระองค์นี้ให้ผมไว้บูชา แต่ว่าตอนนี้ผมยังไม่มีเงินเลย ถ้าหากหลวงพ่อเมตตาและต้องการให้ผมได้พระองค์นี้ไว้บูชาจริงๆ ขอให้หลวงพ่อช่วยให้ผมมีเงินเข้ามาพอที่จะโอนให้น้องเขาด้วยเถิด” ซึ่งตอนที่บอกหลวงพ่อไป ผมก็ยังมองไม่ออกนะว่าจะได้เงินมาจากไหน เพราะงานที่จะส่งลูกค้า ผมก็ยังทำไม่เสร็จ ในใจคืออยากได้พระมาก แต่ก็ไม่อยากไปหยิบยืมเงินมาเช่า
ประมาณบ่ายสามกว่าๆ ปาฏิหาริย์ครั้งแรกของพระองค์นี้ก็เกิดขึ้นครับ
มีพี่ชายท่านหนึ่ง ซึ่งไม่เคยรู้จักกับผมมาก่อน ติดต่อเข้ามาขอซื้อของสะสม ที่ผมลงขายไว้ในเว็บไซต์ของผม ซึ่งเป็นของที่มีคนสะสมน้อย และผมก็ลงทิ้งไว้นานมากแล้ว แต่ไม่เคยมีคนมาถามซื้อ
พี่เขาเลือกซื้อไปหลายรายการ ยอดเงินรวมอยู่ที่ 3,500 บาท และโอนเงินให้ผมทันทีที่คุยกันจบ … ยอดเงินไม่มากครับ … แต่แปลกตรงที่พี่เขาเลือกซื้อแต่ของเก่าที่ค้างสต็อกอยู่ (ซึ่งผมเองก็ทำใจไว้แล้วว่าคงไม่มีโอกาสขายได้แน่ๆ) ผมเองเชื่อว่านี่คือปาฏิหาริย์จากพระองค์นี้แน่นอน
ในที่สุด ผมก็มีเงินโอนให้น้องเขา ในเวลา 18.18 น. และยังได้โอนเงินให้กับอีก 3 ท่าน ที่ผมจองพระไว้ก่อนหน้านี้ด้วย
ปาฏิหาริย์ครั้งที่สอง ของพระองค์นี้
วันรุ่งขึ้น (วันที่ 20 มิถุนายน 2563) วันนี้ผมอยากลองขอหลวงพ่อดูอีกครั้ง ผมก็เลยเอาพระมาใส่มือพนม แล้วอธิษฐานในใจ ผมขอท่านตรงๆ ว่า “ขอให้ผมขายของได้สัก 5,000 บาท และขอให้ของที่ขายได้เป็นของที่มีค้างอยู่ และคนไม่ค่อยซื้อ” โจทย์อาจจะยากไปนิด แต่ไม่ยากสำหรับหลวงพ่อเลยครับ แค่บ่ายๆ ผมก็ขายของได้ละ เงินโอนเข้าบัญชีเรียบร้อย “ห้าพันกว่าบาท” ยอดเกินกว่าที่ขอมานิดหน่อย ^_^
ปาฏิหาริย์ครั้งที่สาม ของพระองค์นี้
วันที่ 21 มิถุนายน 2563 ผมยังอยากลองขอหลวงพ่ออีกสักครั้ง เพื่อความมั่นใจ วันนี้ผมเลยขอเหมือนเมื่อวาน แต่เพิ่มยอดขายเป็น 10,000 บาท ไม่พลาดครับ ช่วงเย็นปิดจ๊อบไปด้วยยอดหมื่นนิดๆ
หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้ขอท่านแบบลองของอีกเลย แต่ผมก็ยังได้รับประสบการณ์เรื่องเมตตา ค้าขาย และอีกหลายๆ เรื่องจากหลวงพ่อและพระองค์นี้มาตลอด ซึ่งถ้าจะนับกันจริงๆ น่าจะเกินกว่า 30 ครั้ง หรืออาจจะมากกว่านั้นครับ เพราะช่วงหลังๆ ผมไม่ค่อยได้บันทึกไว้แล้ว
ล่าสุดก็เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2564 ผมอธิษฐานขอยอดขาย 5,000 บาท ก็ได้ตามที่ขอครับ
และเมื่อวานนี้ (17 พฤษภาคม 2564) ผมก็ขอยอดขายกับหลวงพ่ออีกครั้งครับ และก็ยังได้รับความเมตตาจากหลวงพ่อเหมือนเดิมครับ
ที่ผมเขียนเล่ามานี้ ไม่ได้จะมีเจตนาอวยหรือปั่นพระของหลวงพ่อนะครับ เพียงแต่อยากแบ่งปันประสบการณ์ดีๆ ที่ผมได้รับเท่านั้น
ส่วนตัวผมเคยแขวนพระดังๆ แพงๆ มาหลายองค์เหมือนกัน ประสบการณ์จากการบูชาก็เคยเจอมาบ้าง แต่ไม่มีองค์ไหนที่ผมได้รับความเมตตาเร็วและมากแบบนี้ ผมมีโชคลาภจากการทำงานเท่านั้นนะครับ ผมไม่มีดวงเรื่องหวย ตั้งแต่บูชาพระหลวงพ่อมา ผมเคยฝันเห็นหวยนะครับ ฝันตรงๆ ออกตรงๆ มา 4-5 ครั้ง แต่ผมไม่ได้ซื้อ และครั้งไหนที่ผมซื้อ ก็จะไม่ถูก ได้แค่เฉี่ยวๆ ครับ ^_^
พระเครื่องและวัตถุมงคลของพระเกจิอาจารย์ทุกท่าน ทุกองค์ ผมเชื่อว่ามีพุทธคุณดีหมดครับ และผมเองก็ไม่เคยลบหลู่พระเครื่องและวัตถุมงคลของครูบาอาจารย์ท่านใดเลย
เพียงแต่ผมบูชาพระเครื่องและวัตถุมงคลของหลวงพ่อน้อยแล้ว ผมได้รับประสบการณ์ดีๆ ได้รับความเมตตาจากหลวงพ่อ ก็เลยเอามาเขียนเล่าแบ่งปันกัน
พระของหลวงพ่อน้อย ต้องบูชาเอง แล้วจะรู้ครับ
พระองค์ละร้อย สองร้อย … แต่พุทธคุณมากเหลือคณาครับ
ประสบการณ์ที่ผมได้รับมีเยอะมากครับ ไว้ผมจะทะยอยเขียนให้อ่านนะครับ ผมรับปากพี่ๆ ในกลุ่มไว้ตั้งแต่ปีที่แล้วละครับ ว่าจะเขียนมาแบ่งปัน แต่ก็ไม่มีเวลาสักที วันนี้มีโอกาสได้เขียนครั้งแรกครับ
ขอบคุณทุกท่านที่อดทนอ่านนะครับ ^_^
17 พฤษภาคม 2564