สัตว์นรก เปรต อสูรกาย ก็ไปจากคน
สัมภเวสี ผีสาง นางไม้ก็ไปจากคน
หมาแมว สัตว์เดรัจฉาน ก็ไปจากคนนี่แหละนะ
เทพ เทวดา พระอินทร์ พระพรหม ก็ไปจากคนเหมือนกัน
พวกเราท่านทั้งหลาย ทั้งหมด 31 ภพภูมินี่ ไปจากคนหมดเลยนะ
พวกเราสามารถเลือกได้ตอนเป็นคนนี่แหละนะ ว่าจะเป็นอะไร
หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ
ท่านบอกว่า อย่าคิดว่าเราดีกว่าหมานะ
ตายจากความเป็นหมา
ก็ไปเกิดเป็นคนได้ เป็นเทวดาได้
ถ้าหมาตัวนั้น ชดใช้เวรกรรม จนเบาบางลง
มนุษย์เรานี้ ตอนยังมีชีวิตอยู่นี้นะ
ดวงจิต จิตใจของเราเป็นไปได้ทุกภพทุกภูมิเลยนะ
บางวันมีสติ ตั้งมั่น อารมณ์ดี จิตใจดี มีเมตตา เบาสบาย
คิดดี พูดดี ทำดี มีคุณธรรม มีศีลธรรม
ไม่ยึดมั่น ถือมั่น ไม่ทำให้ตนเองและผู้อื่นเดือดร้อน
ก็เป็นพรหม เป็นเทวดา เสวยวิหารธรรมของพรหม ของเทวดา
บางวันขาดสติ อารมณ์รุนแรง ฉุนเฉียว
โลภ โกรธ หลง อิจฉา ริษยา มีกิเลสตัณหามาก
มีความคับแค้นใจ ขุ่นเคืองใจ เศร้าหมองใจ
ไม่สบายกาย ไม่สบายใจ จิตใจรุ่มร้อนดั่งไฟ
เป็นแบบนี้นี่นะ เสวยความเป็นเปรต อสูรกาย สัตว์เดรัจฉาน สัตว์นรก
ตอนจะตาย ตายตอนอารมณ์ใหนก็ไปอารมณ์นั้น
เสวยอารมณ์จิตสุดท้ายก่อนออกจากร่างไปอย่างยาวนาน
หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ท่านจึงเมตตาสอนไว้ว่า
“หมั่นทำเข้าไว้ … ให้หมั่นดูจิต รักษาจิต
ของดีอยู่ที่ตัวเรา ของไม่ดีก็อยู่ที่ตัวเรา”
พวกเราท่านทั้งหลาย
ตัวเรานี้อดีตชาติที่ผ่านมา
เราก็เคยไปเกิดเป็นมาทั้งหมดแล้วล่ะ
ชาติที่แล้วเราอาจจะไม่ไช่คนก็ได้
ชาตินี้มีบุญได้เกิดมาเป็นคน
เป็นมนุษย์ผู้ประเสริฐกว่าสัตว์ทั้งหลายในโลก
มีโอกาสสร้างบุญ สร้างบารมีธรรม
ชำระจิตใจของตนเอง ให้บริสุทธิ์
เพื่อที่จะมีจิตที่ผ่องใส เป็นผู้มีจิตใจสูง มีสุขคติเป็นที่ไป
ไม่ต้องตกต่ำไปเป็นสัตว์เดรัจฉาน เปรต อสูรกาย สัตว์นรก
จนกว่าจะพ้นจากกองทุกข์ คือ พระนิพพาน
ที่มา : อมตะธรรม หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
อ้างอิง : อมตะธรรม ประเทศไทย