สีผึ้งมนต์จินดามณีเสน่ห์แดง หลวงพ่อน้อย วัดเนินเวียง
สุดยอดเกจิอาจารย์ร่วมสมัยเมืองปากน้ำโพ ตำนานสีผึ้งมนต์จินดามณีเสน่ห์แดง ขอท่านได้อ่านตั้งแต่ต้นจนจบ แล้วท่านจะทราบว่า “นี่ของจริง” ผมจะเรียก “สีผึ้งแดงแรงฤทธิ์” หลวงพ่อน้อย ชุตินธโร หรือท่านพระครูนิพัทธ์สารคุณ วัดเนินเวียง อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์
ลูกไก่ที่กินข้าวสารที่คลุกด้วยสีผึ้งมนต์จินดามณีเสน่ห์แดงของท่าน ยังเดินตามท่านทั้งวัน เซื่องซึม เชื่องช้า จนท่านต้องจับหัวคลายมนต์ให้
สีผึ้งมนต์จินดามณีเสน่ห์แดง เป็นสีผึ้งที่ลูกศิษย์ต้องการมาก ด้วยใช้แล้วแรง บูชาแล้วเกิดประสบการณ์. และน้อยคนที่จะได้สีผึ้งแดงของท่าน ด้วยท่านหวงมาก ท่านจะเลือกตักให้เพียงแค่ 1 ก้อนเล็ก หรือประมาณ 1 หัวไม้ขีด เท่านั้น ด้วยท่านว่า ของฉันแรง เอาไปเป็นหัวเชื้อ หรือไปผสมกับสีผึ้งอื่น ใช้ได้เหมือนกัน อีกทั้งท่านเคยกล่าวว่า กลัวบางคนเอาไปใช้ในทางที่ผิดศีลธรรม ท่านเลยหวง และไม่ถ่ายทอดวิชานี้ให้กับไครง่ายๆ
วิชาสีผึ้งมนต์จินดามณีเสน่ห์แดงนี้ ท่านได้เรียนมาจาก หมอขัน ฆราวาสจอมอาคม ซึ่งมีศักดิ์เป็นปู่ของท่าน ท่านกล่าวว่า สีผึ้งในสายนี้แรงมาก ผู้ที่ใช้เห็นผลทุกราย ศิษย์ของท่านหลายคนได้เมียเพราะสีผึ้งแดงของหลวงพ่อ
หลวงพ่อน้อยท่านหุงสีผึ้งแดงนี้ตามตำราที่เรียนมา ท่านหุง ณ กลางป่าช้า ป่าช้าที่ท่านหุงสีผึ้ง คือ บึงคอกช้าง จ.อุทัยธานี เหตุที่ท่านเลือกหุง ณ บึงคอกช้าง คือ สมัยท่านเดินธุดงค์ ท่านได้ปักกลดอยู่ที่บึงคอกช้างแห่งนี้ แล้วท่านนิมิตเห็นดวงวิญญาณ ภูติผี วิญญาณที่ถูกคนมีวิชาอาคมสะกดและฝังไว้ ในนิมิต ท่านรับปากว่า อีกไม่นานท่านจะมาปลดปล่อยดวงวิญญาณเหล่านี้ และก่อนที่ดวงวิญญาณเหล่านี้จะไปสู่ภพภูมิที่ดี ท่านจึงจะขอพลีดวงวิญญาณให้ช่วยทำสีผึ้งแดงของท่าน
หลังจากที่ท่านไปปักกลดเจริญกรรมฐานที่บึงคอกช้าง ท่านกลับมา ท่านก็รวบรวมมวลสารต่างๆ เพื่อให้ครบตามตำราของท่าน เมื่อได้มวลสารครบตามตำราแล้ว ท่านก็เดินทางไปหุงสีผึ้ง ณ บึงคอกช้าง เมื่อประมาณปี 2505 ตามตำราครูอาจารย์ของท่าน ท่านใช้หัวกระโหลก เป็นก้อนเส้า 3 ก้อน ในการหุงสีผึ้ง โดยท่านบอกว่า ก้อนเส้านี้แทนเขาตรีกูฏ หรือภูเขาสามเส้า เขาสามลูก ที่รองรับเขาพระสุเมรุ โดยเขาตรีกูฏ เป็นภูเขา 3 ลูก เป็นที่อยู่ของภูติ พราย อสูร มาร ที่ทำหน้าที่รองรับเขาพระสุเมรุ ท่านทำตามตำราของท่าน เพื่อต้องการพลังอาถรรพ์ พลังมนต์ต่างๆ ทางอาถรรพ์เวทย์มหาเสน่ห์ ให้สีผึ้งของท่านสำฤทธิ์ผล
มวลสารที่ใช้ ท่านใช้มวลสารอาถรรพ์ และน้ำมันว่านมหาเสน่ห์ต่างๆ ดังนี้
- ขี้ผึ้งเดือนห้าขวางตะวัน
- น้ำตาเทียนชัย 9 วัด
- สีผึ้งอุดปากผี
- น้ำมันพราย ของตกทอดจากหมอฝั้นบ้านบางมะฝ่อ อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์
- น้ำตาน้องร้องตามแม่ ท่านว่า ให้ลูกศิษย์เอาสำลีไปชุบน้ำตาเด็กที่ร้องให้ตามแม่ ชุบแล้วนำมาเก็บไว้ แล้วนำไปเป็นส่วนผสมหุงกับสีผึ้ง
- น่ำมันว่านมหาเสน่ห์ 108 เช่น ว่านเสน่จันทร์แดง ว่านเถาวัลย์แดง ว่านเครือเขาหลง ว่านเพชรพญาธร ว่านตระกูลเสน่ห์จัน ว่านสาริกาลิ้นทอง และอีกหลายชนิด ซึ่งผู้ได้รับการถ่ายทอดไม่ขอเปิดเผย โดยน้ำมันว่านมหาเสน่ห์นี้ ท่านว่า เคี่ยวต่างหาก โดยการเคี่ยวน้ำมันว่านนี้ ท่านทำละเอียดมาก โดยหุงด้วยไฟธาตุมนุษย์ ใช้ก้อนถ่านขี้เถ้าเผาผี ผงเถ้ากระดูกผีตามกองฟอนต่างๆ นำมาผสมกับฟืนหุง
- น้ำมันว่านไก่แดง
- ผงเสน่ห์ยาแฝดล้านนา ผงเสน่ห์ยาแฝดเขมร ท่านได้จากอาจารย์ปู่ของท่าน
- ผงอิทธิเจ ผงปถมัง ผงมหาราช ผงตรีนิสิงเห ที่ท่านลบเอง ผงทุกผงท่านนำมาปั้นแล้วเขียนยันต์มหาเสน่ห์ แล้วปัดผงเก็บไว้นำมาผสมกับสีผึ้ง
ท่านหุงไม่เยอะ เพียงบาตรเดียว บาตรที่ท่านธุดงค์ และทำครั้งเดียว
เมื่อท่านตั้งก้อนเส้าแล้ว ท่านได้ใช้ไม้มงคล ไม้รัก ไม้ยอ ไม้มะยม ไม้คูณ ไม้กาหลง เป็นฟืนหุงสีผึ้งกลางป่าช้า ท่านหุงเพียงผู้เดียว ท่านบอกตอนเสกในป่าช้าท่านได้เชิญพราย ภูตผีทุกตน ทุกรูป ทุกนามมาช่วยเสกช่วยสร้างกุศล
ท่านบอกว่า ไม้กวนสีผึ้งนั้นท่านใช้ไม้ไก่กุกกวน โดยไม้ไก่กุกนี้ท่านเห็นเอง และเก็บไว้เอง เป็นไม้ที่ไก่ตัวผู้จิกเรียกไก่ตัวเมียมาเพื่อผสมพันธุ์ มีอุปเท่ห์ทางเสน่ห์มหานิยมนัก ในระหว่างที่ท่านกวน ท่านได้ลงมนต์อยู่ 3 มนต์
- มนต์มหาเสน่ห์
- มนต์มหาละลวย
- มนต์พระสังข์เรียกเนื้อปลา (จินดามณี)
โดยมนต์ที่ 1 ท่านจะใช้ไม้ไก่กุกกวนเวียนขวา 1 จบ พร้อมร่ายมนต์ ท่านกวนทั้ง 3 รอบ ด้วยใช้ไม้ไก่กุกกวน ครบทั้ง 3 มนต์
หลังจากหุงสีผึ้งเสร็จ ท่านบอกว่าท่านได้เจริญกรรมฐาน ใช้พลังจิตปลดปล่อยดวงวิญญาณ ท่านว่าสีผึ้งของท่านแรงด้วยครู แรงด้วยภูตผี
หลังจากกวนเสร็จ ท่านได้นำกลับมาเสกอีกครั้ง ในช่วงเข้าพรรษา ตลอด 3 เดือน ท่านว่าท่าน ”ต้องเสกให้เทพเทวดาหลง จึงจะสำเร็จ“
แล้วจะประสาอะไรกับคนธรรมดาอย่างเรา เรียกว่าเด็ด เรียกว่าแรงอย่างแน่นอน
สีผึ้งของท่านจะออกวรรณะสีน้ำตาลแดงเข้ม ด้วยสูตรน้ำมัน และมวลสารอาถรรพ์ เฉพาะตัวของท่าน ที่ท่านได้ร่ำเรียนมา
หลังจากเสกเสร็จครบทุกกระบวนสูตร ท่านได้เอาสีผึ้งแตะคลุกข้าวสารหว่านให้ลูกไก่กิน สร้างความอัศจรรย์ใจให้แก่ผู้พบเห็น ลูกไก่มันเดินตามท่านทั้งวัน จนต้องลูบหัวคลายมนต์ให้
จากคำบอกเล่าของคุณพ่อสาลี่ น้อยทวี ศิษย์ใกล้ชิดมากๆ ท่านหนึ่ง (ปัจจุบันท่านเสียชีวิตแล้ว) ที่รู้วิธีการสร้าง และมีประสบการณ์จากสีผึ้งหลวงพ่อ ท่านได้ถ่ายทอดเอาไว้ว่า
“สีผึ้งแดงของหลวงพ่อเอาไปใช้ได้เลย เจิมข้าวของค้าขายดี ทาคิ้ว ทาผมเรา เป็นเสน่ห์ แตะแก้วเหล้าเบียร์บางๆ ให้คนที่เราชอบ ดื่มกินเป็นเมตตา เขารักเมตตาเราดีนัก แตะแต้มเสื้อผ้าตัวเขา เขาจะค่อยๆ เมตตาสงสาร เมตตารักใคร่เรา ค่อยเป็นค่อยไป จนถึงขั้นรักมาก เมตตามาก บางคนถึงขั้นหึงหวงเลยก็มี ใช้ของเสน่ห์แบบนี้ต้องใจเย็น ค่อยๆ ทำไป ใช้ไป อย่าใจร้อน ศรัทธาแล้วจะบังเกิดผล จากอ่อนไปหาแก่ จากเบาไปหาหนัก จากเมตตาจนกลายเป็นรักลุ่มหลง โงหัวไม่ขึ้น”
อิทธิคุณของสีผึ้งแดงหลวงพ่อน้อย เป็นเลิศในด้านมหานิยม ด้านเมตามหาเสน่ห์ ด้านโชคลาภ การเข้าหาคน การเข้าหาบริวาร การเข้าหาเจ้านาย ผู้คนนิยมชมชอบ มีโชคมีลาภ ลูกค้าเนืองแน่นมีมา
ผู้เขียน : จ่าเจี๊ยบ ปากน้ำโพ
ที่มาบทความ : โชคชัย ส.สุขกุลยิม
ขอบคุณภาพ : โชคชัย ส.สุขกุลยิม
สีผึ้งมนต์จินดามณีเสน่ห์แดง หลวงพ่อน้อย วัดเนินเวียง
กระปุกชาเนื้อตะกั่วนมหลวงพ่อน้อย สมบัติของวัดเนินเวียง หลวงพ่อน้อยใส่สีผึ้งใว้เดิมๆ เป็นสมบัติของวัด
กระปุกดำคือกระปุกเดิมของหลวงพ่อน้อย ที่คุณพ่อสาลี่ น้อยทวี ได้รักษาเอาไว้ (ท่านได้รับก่อนหลวงพ่อมรณภาพ) ปัจจุบันกระปุกนี้เป็นสมบัติของวัดเนินเวียง อยู่ที่ตู้เก็บวัตถุมงคลของหลวงพ่อ หน้าสรีระท่านครับ
ในปี 2560 คณะศิษย์ได้นำมาตักแบ่งให้แก่ผู้ร่วมทำบุญในงานครบรอบวันมรณภาพของหลวงพ่อ จำนวน 4 ตลับ แบ่งเป็นตลับยาหม่อง 3 ตลับ และตลับแก้ว 1 ตลับ (ตลับแก้วคือตลับในรูปด้านล่างนี้ครับ)
ตลับแก้วในรูป จากวันนั้น (ปี 2560) จนถึงวันนี้ ยังไม่เคยได้งัดแบ่ง หรือผ่านการใช้เลย เรียกว่าตลับเดิมๆ จากวัดก็ว่าได้ครับ
ผู้เขียน : อาร์ท โชคชัย
ข้อมูลจาก : คุณโชติ ปากน้ำโพ
ที่มาบทความ : กลุ่ม สีผึ้งมนต์จินดามณีเสน่ห์แรง(แดง)หลวงพ่อน้อย ชุตินฺธโร มาตรฐานสากล