ฉบับที่แล้วผมได้เสนอวัตถุมงคลของท่านอาจารย์อิฏฐ์ ต่อท่านผู้อ่านไปแล้วจำนวน 16 รายการ สำหรับตอนสุดท้ายนี้ ผมขอเสนอวัตถุมงคลที่เหลือ และบทสรุปเกี่ยวกับท่านท้าวเวสสุวรรณโณ และท่านอาจารย์อิฏฐ์ อีกครั้งหนึ่ง
17. รูปหล่อลอยองค์เจ้าแม่กวนอิม พ.ศ. 2536
ลักษณะเป็นรูปหล่อขนาดเล็กกระทัดรัด ความสูง 2.2 ซม. เป็นพิมพ์เจ้าแม่กวนอิมนั่งยกเข่าข้างขวาเล็กน้อย บนฐานบัวคว่ำบัวหงาย มือขวาถือพวงลูกประคำ มือซ้ายถือคนโท หล่อด้วยชนวนพระชัยวัฒน์ ปี 2482 วัดสุทัศน์ล้วนๆ จำนวนสร้าง 38 องค์
18. พระพุทธสามขา พ.ศ. 2536
เป็นพระพุทธรูปขนาดพระเครื่อง คือสูง 3.0 ซม. มีฐานเป็นสามขา ถอดพิมพ์มาจากพระอยุธยาสามขาขนาดเล็ก หล่อโดยใช้ชนวนพระชัยวัฒน์ ปี 2482 วัดสุทัศน์ล้วนๆ เทพร้อมกับรูปหล่อเจ้าแม่กวนอิม จำนวนการสร้าง 45 องค์ ตอกโค้ดนะเศรษฐีที่สะโพกด้านหลัง
19. พระเนื้อผงพิมพ์รูปเหมือนหลวงพ่อเนื่อง พ.ศ. 2536
เป็นพิมพ์สี่เหลี่ยมขนาดเล็ก กว้าง 1.7 ซม. สูง 2.5 ซม.
ด้านหน้า เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเนื่องครึ่งองค์ ห่มลดไหล่ แกะแบบนูนต่ำ มีอักษรด้านล่างว่า หลวงพ่อเนื่อง
ด้านหลัง ตรงกลางเป็นยันต์น้ำเต้า ล้อมรอบด้วยอักขระขอม ด้านบนเขียนว่า วัดจุฬามณี ด้านล่างเขียนว่า จ.สมุทรสงคราม จำนวนการสร้าง 84,000 องค์
20. สติ๊กเกอร์รูปท่านท้าวเวสสุวรรณโณ พ.ศ. 2536
ทำเป็นสติ๊กเกอร์ติดรถยนต์ หรือติดกระจกภายในบ้าน ขนาดกว้าง 8.5 ซม.สูง 16 ซม. โดยเป็นรูปท่านท้าวเวสสุวรรณโณภาคเทพบุตรชั้นดาวดึงส์ มีลายละเอียดคือ องค์ท่านนั่งขัดสมาธิราบบนแท่นที่มีรูปมนุษย์อยู่ที่หน้าแท่น มือขวาถืออาวุธ ทรงภูษาแดง มีรัศมีเป็นสีเหลือง ใบหน้าท่านเป็นแบบเทพบุตร แต่ยังมีลวดลายที่เป็นลักษณะของยักษ์อยู่บ้าง ทำให้มองดูดุ
สำหรับสติ๊กเกอร์รุ่นนี้ผู้ที่นำไปใช้ติดรถยนต์ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า พุทธคุณยอดเยี่ยม
21. สติ๊กเกอร์ยันต์แปดทิศ (โป๊ยก่วย) พ.ศ. 2536
เป็นสติ๊กเกอร์ยันต์จีนแปดทิศ ทำเป็นแปดเหลี่ยม เส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 12.5 ซม. ตรงกลางเป็นวงกลมมีเครื่องหมาย หยิน – หยาง ใช้ติดรถยนต์ ติดกระจกหน้าบ้าน คนจีนนิยมชมชอบมาก มีประสบการณ์มาแล้วมากมาย
22. เหรียญรัชกาลที่ 5
เป็นเหรียญที่สร้างขึ้นเพื่อฉลองอายุครบ 3 รอบ ท่านอาจารย์อิฏฐ์
ด้านหน้า เป็นรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แกะพิมพ์แบบเหรียญเสด็จประพาสยุโรป พื้นเหรียญขัดเงา ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 3.1 ซม.
ด้านหลัง ตรงกลางเป็น พระนามาภิไทยย่อ จปร. บนลายช่อชัยพฤษ์ ด้านบนเขียนว่า ที่ระลึกงานฉลองอายุครบ 3 รอบ 1 สิงหาคม 2536 ด้านล่างเขียนว่า พระครูวินัยธร (สมโภชน์) เจ้าอาวาสวัดจุฬามณี อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม คณะศิษย์สร้างถวาย
จำนวนการสร้าง
- เหรียญทองคำ 109 เหรียญ
- เหรียญเงิน 1,500 เหรียญ
- เหรียญทองคำ ตอกหมายเลขที่สันเหรียญ เลข 1 – 108 เหรียญที่ 109 ไม่ได้ตอก
เนื้อเงิน
เนื้อทองแดง
เหรียญนี้ถูกจองจนหมดทั้งเนื้อทองคำและเนื้อเงิน ตั้งแต่เหรียญยังไม่ได้ออกจำหน่าย ทำให้ลูกศิษย์ที่มาจองไม่ทันต่อว่าต่อขานกันใหญ่ว่าทำน้อย และรบเร้าขอให้ทำเพิ่ม ท่านอาจารย์จึงต้องใช้พิมพ์เดิมทำเพิ่มขึ้น แต่ให้แตกต่างออกไปคือ เนื้อทองคำ เพิ่มน้ำหนักจาก 30 กรัม เป็น 45 กรัม
จำนวนการสร้างครั้งที่ 2
- เนื้อทองคำ 28 เหรียญ
- เนื้อทองแดง 15,000 เหรียญ
- เนื้อเงิน ไม่มี
23. รูปลอยองค์ท่านท้าวเวสสุวรรณโณ เนื้อดีบุก พ.ศ. 2537
เป็นรูปหล่อที่ใช้พิมพ์เดียวกับพิมพ์ยืนเข่าตรง แต่หล่อด้วยเนื้อดีบุกเพียงเนื้อเดียวเท่านั้น จำนวนการสร้าง 1,149 องค์
24. พระสามหน้างาแกะ
25. ท้าวเวสสุวรรณโณ ขนาดบูชา
เป็นรูปท่านท้าวเวสสุวรรณโณภาคยักษ์ ยืนย่อเข่าถืออาวุธ ขนาดสูง 12 นิ้ว หล่อด้วยทองเหลือง พ่นสีทองทับ จำนวนการสร้าง 108 องค์
ท่านผู้อ่านที่เคารพครับ ผมได้เสนอเรื่องราวและวัตถุมงคลของท่านอาจารย์อิฏฐ์มาถึงตอนสุดท้ายแล้ว ในส่วนของวัตถุมงคล 25 รายการนั้น ค่อนข้างจะครบถ้วน จะมีบางอย่างที่ทำอย่างไม่เป็นทางการ ผมจึงมิได้นำมาลงไว้ เช่น ของที่ชาวบ้านนำไปให้ท่านปลุกเสก และด้ายสายสิญจ์คล้องคอ รวมถึงไหมห้าสีที่หลวงพ่อหยอด แห่งวัดแก้วเจริญ ถ่ายทอดให้ นอกจากนี้ยังมีวัตถุมงคลที่สร้างน้อย บางชนิดอยู่ระหว่างการสร้าง เช่น มีดหมอ กระบี่เจ็ดดาว ผ้ายันต์ขนาดบูชา เป็นต้น ก็คงต้องรอไว้โอกาสหน้า เมื่อมีวัตถุมงคลและประสบการณ์ที่น่าสนใจเกิดขึ้น ผมจะนำมาเสนอต่อท่านอีก
วัตถุมงคลทั้งหมดของท่านอาจารย์ นอกจากท่านจะปลุกเสกเดี่ยวแล้ว ทางยังอัญเชิญท่านท้าวเวสสุวรรณโณมาปลุกเสกให้ รวมทั่งท่านจะนำไปเข้าพิธีต่างๆ ที่ท่านรับนิมนต์ไปร่วมพิธีปลุกเสกเสมอ บางรุ่นเข้าพิธีใหญ่ๆ เป็น 10 ครั้ง เพราะฉนั้นเรื่องพุทธคุณไม่ต้องห่วง ก่อนที่จะจบเรื่องของอาจารย์ ผมคงต้องขอกล่าวสรุปในเรื่องของท่านท้าวเวสสุวรรณโณ และท่านอาจารย์อีกครั้งหนึ่ง
ท่านท้าวเวสสุวรรณโณ ตามความเข้าใจของผู้นิยมชมชอบวัตถุมงคล เครื่องราง ของขลัง คิดว่าท่านเป็นเพียงเจ้าแห่งปีศาจ มีพุทธคุณทางด้านกันผี กันคุณไสย เท่านั้น แต่โดยแท้ที่จริงแล้ว ท่านมีบารมีทางด้านอื่นสูงส่งมากเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะเมตตา มหานิยม และด้านการค้าขาย เนื่องจากท่านได้รับการยกย่องว่าเป็นธนะบดี หรือเป็นเทพเจ้าแห่งความมั่งคั่ง จึงมีอิทธิพลต่อการค้าขาย เพราะความร่ำรวยนั้นต้องเป็นผลมาจากการค้าขายและบุญเก่าที่ทำมา ผมเองเชื่อว่าในยุคสมัยปัจจุบัน ผู้บูชาพระเครื่องและเครื่องรางของขลัง ต่างต้องการพุทธคุณทางด้านค้าขายดีและเมตตามหานิยมเสียเป็นส่วนใหญ่ คนเราบางครั้งมีความขยันขันแข็ง ทำมาหากินตัวเป็นเกลียว แต่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จ แต่บางคนจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทองไปหมด ที่เป็นเช่นนั้น ส่วนหนึ่งมีผลมาจากกรรมเก่าที่สร้างสมกันมา อีกส่วนหนึ่งก็จำเป็นต้องมีกำลังใจจากสิ่งที่มองไม่เห็น นั่นคือ อำนาจแห่งพลังจิต ซึ่งถ้าเรากราบไหว้บูชาองค์ผู้มีอิทธิบารมีทางด้านค้าขาย ประกอบกับการประพฤติปฏิบัติชอบ ย่อมจะส่งผลดีให้กับผู้บูชาด้วย และเมื่อถ้าค้าขายดี สิ่งที่ตามมาก็คือเงินทอง ซึ่งเป็นปัจจัยที่จะช่วยให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น สามารถแก้ปัญหาได้หลายอย่าง ไม่เป็นภาระกับบุคคลอื่น เพราะสมัยนี้การจะไปพึ่งใครนั้นเป็นเรื่องยาก
ส่วนพลังแห่งความเมตตามหานิยมนั้น เป็นสุดยอดปรารถนาอีกอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะในสภาพสังคมปัจจุบัน ที่มีแต่การชิงดีแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น แบ่งพรรคแบ่งพวก เห็นแก่ตัว ไม่คิดถึงความเดือดร้อนของผู้อื่น ลองติดตามข่าวจากหน้าหนังสือพิมพ์ดูสิครับ สาเหตุนิดเดียวก็ฆ่ากันตายแล้ว และวิธีการฆ่านับวันจะมีแต่โหดเหี้ยมทารุนมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะฉนั้นการอยู่ในสังคมนี้ พุทธคุณที่ต้องการไม่มีอะไรจะดีไปกว่าความมีเมตตามหานิยม เพราะถ้าใครเห็นใครรัก ก็จะเป็นเกราะกำบังอันตรายได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าเกิดพลาดพลั้งถูกลูกหลง ท่านท้าวเวสสุวรรณโณก็ยังให้ความแคล้วคลาด มหาอุด คงกระพัน ได้อย่างวิเศษยิ่งอีกด้วย และถ้าท่านผู้อ่านนำท่านขึ้นคอแล้วจะรู้สึกเหมือนกับว่าท่านติดตามคุ้มครองเราอยู่ตลอดเวลา ซึ่งผมได้ประจักษ์มากับตัวเองแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่นำมาเผยแพร่ต่อ่ท่านผู้อ่านหรอกครับ
สำหรับท่านอาจารย์อิฏฐ์ ซึ่งเป็นองค์ผู้สร้างรูปเคารพท่านท้าวเวสสุวรรณโณ ที่ผมนำมาเสนอต่อท่านผู้อ่านนั้น ถึงแม้ว่าท่านจะเป็นพระหนุ่ม พูดจาโผงผาง แต่ท่านมีวิชาอาคมขลัง มีดีหลายอย่าง ทางด้านค้าขาย มีคนจีนไปหาท่านเยอะมาก ทางด้านเมตตามหานิยม เยี่ยม ! บางท่านอาจจะแย้งว่าพระเก่งๆ สมัยนี้หายากจะตายไป ยิ่งพระหนุ่มๆ ด้วยแล้วยิ่งตัดกิเลสยาก โดยเฉพาะสมัยนี้สิ่งยั่วยวนมีเยอะ ก็คงต้องเรียนต่อท่านผู้อ่านว่า การถ่ายทอดวิชาอาคม และการสืบทอดมาแต่โบราณกาลนั้นยังมีอยู่อย่างไม่ขาดสาย พระเก่งๆ สมัยนี้ยังมีอยู่ และอาจจะเก่งกว่าสมัยเก่าๆ บางองค์ด้วยซ้ำไป เพราะอันนี้เป็นเรื่องของพลังจิต ไม่ใช่เรื่องของวัตถุที่เสื่อมสลายได้ แม้กระทั่งการปฏิบัติธรรม บำเพ็ญเพียรทางด้านวิปัสนา พระพุทธองด์ได้ทรงตรัสว่า ในช่วงอายุของพระพุทธศาสนา 5,000 ปี จะมีพระอรหันต์อยู่อย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย ซึ่งในยุคนี้ผมก็เชื่อว่าต้องมีพระอรหันต์อยู่หลายองค์ เพียงแต่เราไม่รู้ และท่านก็ไม่สามารถแสดงตัวได้
ในเรื่องของกิเลสหรือสิ่งยั่วยวนในสมัยนี้ กล่าวกันว่ามีอยู่มากมาย และค่อนข้างจะมีอิทธิพลรุนแรงนั้น เราต้องยอมรับว่าเดี๋ยวนี้โลกเจริญก้าวหน้าไปมาก เครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ ทันสมัยและมีมาก ซึ่งพระจำเป็นต้องปรับตัวและรับเอาบางสิ่งบางอย่างเข้ามาใช้ในชีวิตประจำวัน เพราะพระยังต้องติดต่อกับประชาชนทั่วๆ ไป มิเช่นนั้นพระจะไม่ทันโลก และไม่สามารถสอนชาวบ้านที่พัฒนาไปตามกระแสของโลกได้ ถ้าเราต้องเคร่งขนาดที่ว่า พระจะต้องยึดถือทุกอย่างแบบโบราณในสมัยพุทธองค์ เช่น พระต้องจุดเทียน ใช้ไฟฟ้าไม่ได้ เวลาไปไหนต้องเดินเหมือนสมัยโบราณ ขึ้นรถไม่ได้ เวลาเทศน์ต้องใช้เสียงธรรมชาติ ใช้ไมโครโฟนไม่ได้ เพราะในสมัยโบราณไม่มี หรืออย่างการใส่รองเท้า พุทธศาสนิกชนบางท่านมักจะชื่นชมพระที่ไม่สวมรองเท้า เนื่องจากเห็นว่าท่านเคร่งแบบพระสมัยก่อน อันนี้ผมไม่ค่อยจะเห็นด้วยนัก เพราะว่าสมัยนี้ถนนหนทางมีแต่สิ่งที่เป็นอันตรายต่อเท้าตกหล่นอยู่มากมาย เช่น ตะปู ของมีคม เศษโลหะต่างๆ ซึ่งถ้าถูกแล้วเสี่ยงต่อการเป็นบาดทะยัก บางครั้งถ้าเดินเวลาแดดร้อนจัดบนถนนคอนกรีต และถนนราดยาง เท้าคงจะแย่ ผิดกับถนนสมัยโบราณ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นดิน จะไม่ร้อน อย่างมากแค่ถูกหนามตำ ไม่ใช่ตะปูหรือโลหะ
เพราะฉนั้นอย่าไปซีเรียสว่า พระที่เคร่งต้องไม่สวมรองเท้า ขอให้ดูวัตรปฏิบัติอย่างอื่นจะดีกว่า ไม่เช่นนั้นจะเป็นการทรมานพระมากเกินไป เราคงต้องยอมรับว่า พระต้องนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้บ้าง เพียงแต่ท่านต้องไม่ยึดติด ธรรมปฏิบัติไม่บกพร่อง อันนี้เราต้องให้เครดิตว่าพระแต่ละองค์ท่านมีวิจารณญาณของท่าน องค์ใดที่ไม่สามารถรักษาจิตของท่านได้ สภาพแวดล้อมจะจัดการท่านเอง
อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นศัตรูตัวร้ายของพรหมจรรย์ ก็คือ ผู้หญิง เป็นกิเลสตัวที่ตัดยาก พระบางองค์ไม่สามารถข้ามไปได้ ดังที่เราได้เห็นได้ยินกันอยู่บ่อยๆ ในฐานะปุถุชนอย่างเราๆ ท่านๆ ที่เป็นผู้ชายทั้งหลาย ต้องยอมรับว่าตัดยากจริงๆ ในทางพระผู้ที่จะตัดได้ต้องถึงขั้นอนาคามีและอรหันต์ ซึ่งมีไม่มากนัก โดยเฉพาะคุณสาวๆ ในยุคปัจจุบัน มีการแต่งเนื้อแต่งตัวกันสวยๆ งามๆ ยั่วกิเลสได้ดีเสียด้วย ทำให้พระซึ่งก็ยังเป็นปุถุชนธรรมดาเหมือนชายหนุ่มทั่วๆ ไป จนมีคำเปรียบเทียบว่าไม่ใช่พระอิฐพระปูน ฉะนั้นท่านต้องใช้กำลังใจในการควบคุมความต้องการทางเพศที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติเป็นอย่างมาก การฝืนธรรมชาติเป็นเรื่องยากมากนะครับ ที่พูดนี่ไม่ได้เข้าข้างพระหรอก แต่เรียนให้ท่านทราบว่าพระก็ยังมีกิเลส ซึ่งถ้าไม่สามารถควบคุมได้ก็ควรจะสึกออกมาเสียก่อน ที่ผมพูดมายืดยาวนี้ไม่ใช่นอกเรื่องนะครับ เพียงแต่อยากจะให้ท่านผู้อ่านมองมุมกลับว่า ในขณะที่เราเห็นว่ามีกิเลสมากๆ มองเห็นกิเลสชัดๆ อย่างนี้ ในสังคมที่เห็นแก่ตัวและชิงดีชิงเด่นกันอย่างนี้ กลับทำให้พระบางองค์ตัดกิเลสและปลงได้ง่ายขึ้นด้วยซ้ำ เมื่อเป็นอย่างนี้ สิ่งที่ผมจะชี้ให้ท่านเห็นก็คือ พระเก่งๆ ในสมัยนี้ย่อมยังมีอยู่ และเราสามารถจะพบเห็นได้
ท่านอาจารย์อิฏฐ์ นอกจากจะศึกษาวิชาอาคมจากท่านท้าวเวสสุวรรณโณแล้ว ท่านยังศึกษาด้วยตัวท่านเองอยู่ตลอดเวลา เมื่อสำเร็จท่านก็จะสร้างวัตถุมงคลออกมาให้ลูกศิษย์ใช้ ทำให้ท่านมีความสามารถทางด้านไสยศาสตร์อย่างรวดเร็ว ทำของขึ้น มีความเข้มขลัง ใช้ได้ผลทุกอย่าง จึงทำให้มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย และนับวันจะมีแต่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ท่านไม่ค่อยจะมีเวลาพักผ่อน ยิ่งช่วงก่อนเวลาหวยออก ผู้คนยิ่งไปรบกวนท่านมาก ทั้งๆ ที่ท่านไม่ได้ให้หวย แต่เป็นเพราะท่านมีบารมีทางด้านค้าขายและโชคลาภ ทำให้คนไปนั่งเฝ้าท่านตั้งแต่เช้ายันดึก โดยไม่ได้เอ่ยปากขอ และไม่ด่อยคุยอะไรกับท่านเท่าไร แต่จะรอว่าท่านจะพูดอะไรเป็นพิเศษ หรือแจกอะไรบ้าง ก็จะพากันนำไปตีเป็นตัวเลข พากันไปเล่นหวย และถูกกันบ่อยๆ บางรายไปถึงก็ขอจากท่าน ท่านจะด่าสวนกลับทันที แถมเทศนาอีกหนึ่งกัณฑ์ บางคนก็โกรธ บางคนก็ไม่โกรธ ที่ไม่พอใจก็รีบลากลับ พวกที่นั่งรออยู่ก็เอาคำด่าของท่านไปตีเป็นตัวเลขก็ถูกกันอีก บางคนจึงไม่โกรธที่ท่านด่า แถมยังอยากถูกด่าบ่อยๆ บางคนมาแปลก พอพบท่านก็เล่าความทุกข์ให้ฟัง เช่น บอกกับท่านอาจารย์ว่า ตอนนี้ลำบากมาก มีหนี้สินเยอะ บ้านก็ยังผ่อนไม่หมด ด้วยความรู้ทันท่านอาจารย์จะบอกว่า “แล้วฉันเป็นพระจะไปช่วยได้อย่างไรเล่า” เมื่อได้ยินอาจารย์ว่าอย่างนั้น จะหัวเราะแหะๆ แล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย เป็นอันรู้กันว่ามาขอหวย
ท่านอาจารย์มักจะบอกว่าท่านไม่รู้ ถ้ารู้ฉันจะหาเงินมาสร้างกำแพงสักก้อนหนึ่ง ไม่ต้องสร้างพระให้เหนื่อย ท่านบอกว่าของอย่างนี้มันต้องมีโชค และต้องลงทุน ที่ว่าลงทุนก็คือ ทำบุญทำกุศลไว้ พูดง่ายๆ คือมีบุญเก่า ถ้าไม่ลงทุนเลย คือไม่ได้สร้างบุญไว้จะให้อย่างไรมันก็ไม่ถูก แต่ถ้ามีโชคมีบุญเก่ามาเกื้อหนุน จับคำพูดอะไรของท่านไปตีเป็นตัวเลขก็จะถูกได้
ภาพวัตถุมงคลต่างๆ ที่ลงไม่ครบ และที่สร้างภายหลังลงบทความ
ผ้ายันต์มหาเวทย์-มหามนต์ ขนาดใหญ่สีขาว ปี 2532
ผ้ายันต์มหาเวทย์-มหามนต์ขนาดใหญ่สีแดง ปี 2532
ผ้ายันต์มหาเวทย์-มหามนต์ขนาดใหญ่สีเหลือง ปี 2532
ผ้ายันต์มหาเวทย์-มหามนต์ขนาดใหญ่สีเหลืองผ้าไหม ปี 2532
ล็อกเก็ตสีซีเปีย
ล็อกเก็ตสี ด้านหลังบรรจุเกศา ไหมเจ็ดสี ปรกท้าวเวสสุวรรณ และแผ่นทองตอกโค้ด 2 ตัว (กรรมการ)
ล็อกเก็ตสีด้านหลังบรรจุเกศา ไหมเจ็ดสี ปรกท้าวเวสสุวรรณเนื้อเงิน และแผ่นเงินตอกโค้ด และหมายเลข
พระกริ่งภควันต์ุบดี ปลุกเสกเสาร์ที่ 4 มีนาคม 2538
เหรียญองค์ชายสาม (นาจา) ปลุกเสกพร้อมพระกริ่งภควันต์ุบดี
พระสมเด็จมวลสารบางขุนพรหมสร้างปี 2539 ด้านหลังประทับยันต์ 2 แบบ คือ ยันต์ท้าวเวสสุวรรณ และ ยันต์เจดีย์สวรรค์
พระกริ่งรุ่นเจ้าสัวเนื้อนวะ สร้างจำนวน 300 องค์ เมื่อปี พ.ศ. 2540
พระบูชาเนื้อผงองค์ชายสามพิมพ์สมเด็จขนาดใหญ่
แผ่นยันต์มหาจักรพรรตราธิราช เนื้อเงิน จารโดยพระอาจารย์อิฏฐ์ ต่อมาผู้เขียนได้นำลงไปหลอมผสมกับเนื้อพระปิดตาคันฉ่องสองจักรพรรดิ์ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2544
ผู้เขียน : สุวัฒน์ เหมอังกูร
ที่มา : www.rachandam.com