ในแวดวงนักสะสม “จตุคามรามเทพ” ชื่อของ “สุวัฒน์ เหมอังกูร” ย่อมเป็นที่รู้จักของนักสะสมวัตถุมงคลสายจตุคามรามเทพ ในฐานะผู้ศรัทธาเลื่อมใสองค์พ่อจตุคามฯ ระดับแถวหน้าคนหนึ่ง และยังเป็นผู้เขียนเรื่องราวความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พ่อ ลงเผยแพร่ตามสื่อต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
แม้ในทุกวันนี้กระแสนิยมวัตถุมงคลสายนี้จะได้แผ่วเบาลงแล้วก็ตาม แต่คุณสุวัฒน์ก็ยังคงมีความศรัทธาเลื่อมใสในองค์พ่อจตุคามฯ อย่างเหนียวแน่น และมั่นคงเหมือนเดิม จนถึงทุกวันนี้ก็ยังแขวนองค์พ่อติดตัวอยู่เสมอ อีกทั้งยังได้ทำเว็บไซต์ ราชันดำ (rachandam.com) ลงเรื่องราวความรู้ต่างๆ ตลอดจนประสบการณ์ที่มีผู้ได้รับจากการบูชาองค์พ่อจตุคามฯ ติดตัว เพื่อเป็นการเผยแพร่และเทิดทูนเกียรติคุณขององค์พ่อจตุคามรามเทพ โดยเฉพาะอีกด้วย
คุณสุวัฒน์ กล่าวว่า “ผมเป็นนักสะสมพระเครื่องมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นพระกรุ พระเก่า พระหลักยอดนิยม หรือพระเครื่องของเกจิอาจารย์ดังๆ ที่วงการนิยมกัน ผมได้สะสมเอาไว้มากพอสมควร ต่อมาเมื่อประมาณปี ๒๕๓๘ คุณบุญส่ง ธาดาประดิษฐ์ (เสี่ยลิ้ง หาดใหญ่) ได้เอาองค์พ่อจตุคามรามเทพ พิมพ์กลมใหญ่ มาให้ ๑ ถุง จำนวน ๕๐ องค์ ตอนนั้นผมยังไม่มีความรู้อะไรในองค์พ่อเลย อีกทั้งรูปแบบขององค์พ่อก็มีขนาดใหญ่กว่าพระเครื่องทั่วๆ ไป ผมจึงไม่ได้เอามาแขวนใช้ติดตัว คงเก็บเอาไว้ในตู้พระที่บ้าน ส่วนหนึ่งได้ให้เพื่อนไปฟรีๆ ก็มี จนเหลืออยู่ ๕ องค์ ต่อมาเมื่อปี ๒๕๔๒ มีเพื่อนมาคุยให้ฟังถึงความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พ่อจตุคามฯ ว่าดีอย่างโน้น ดีอย่างนี้ มากมายหลายเรื่อง จนผมเริ่มเกิดความสนใจ แต่เพื่อความแน่ใจให้มากกว่านี้ ผมจึงได้เดินทางไป จ.นครศรีธรรมราช เพื่อหาข้อมูลให้มากขึ้น
โดยไปพบกับโกผ่อง ไปคุยกับท่านสัมพันธ์ ทองสมัคร ฯลฯ จนได้ข้อมูลมากมาย ทุกคนต่างกล่าวตรงกัน ในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พ่อต่างๆ นานา ผมจึงได้นำเรื่องราวที่ฟังมานั้น เขียนลงในนิตยสารพระเครื่อง “กรุงสยาม” ของคุณอุ๊ (วัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์) เมื่อต้นปี ๒๕๔๓ ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากผู้อ่านจำนวนมาก จนเกิดการแสวงหาองค์พ่อจตุคามฯ กันอย่างกว้างขวาง ต่อมาคุณอุ๊ได้นำภาพองค์พ่อจตุคามฯ พิมพ์กลมใหญ่ ปี ๒๕๓๐ ลงบนหน้าปก ‘กรุงสยาม’ ฉบับเดือนมิถุนายน ๒๕๔๓ พอดีช่วงนั้นตรงกับที่ จ.นครศรีธรรมราช ได้ทำพิธีเปิดศาลหลักเมืองขึ้นด้วย นับเป็นการจุดประกายให้ผู้คนจำนวนมาก หันมาสนใจเช่าหาองค์พ่อจตุคามฯ เพิ่มมากยิ่งขึ้นไปอีก ในขณะที่ผมเองก็ได้ใช้องค์พ่อติดตัวเป็นประจำ ตั้งแต่ตอนนั้นมาจนถึงทุกวันนี้ (พิมพ์กลมใหญ่ เนื้อนำฤกษ์ ปี ๒๕๓๐)
ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาในระยะ ๒-๓ ปีนี้ กระแสนิยมขององค์พ่อจตุคามฯ จะแผ่วลงแล้วก็ตาม แต่ผมก็ยังศรัทธาเลื่อมใส ยึดมั่นองค์พ่ออยู่เหมือนเดิมทุกอย่าง ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย เพราะผมไม่ได้ศรัทธาหรือสะสมตามกระแส แต่ผมศรัทธาเลื่อมใสนับถือองค์พ่อด้วยความจริงใจ เพราะผมบูชาแล้วมีความสุขกาย สบายใจ การงานเป็นไปด้วยความราบรื่นเรียบร้อยทุกอย่าง ไม่มีปัญหาอุปสรรคใดๆ และที่สำคัญคือ ผมมีประสบการณ์ในองค์พ่อมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใหญ่หรือเรื่องเล็ก อธิษฐานขอพรจากท่านด้วยเรื่องอะไรก็ตาม จะต้องได้เสมอ แต่ต้องเป็นเรื่องที่ถูกต้อง และเป็นไปได้ ไม่ใช่เรื่องที่เกินกำลัง หรือไกลสุดเอื้อม เช่น ขอให้ถูกหวยรางวัลที่ ๑ ขอให้ได้เงินล้านอย่างง่ายๆ อย่างนี้ก็คงไม่ได้แน่”
ที่ผ่านมา คุณสุวัฒน์ทำงานเป็นผู้จัดการธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) อยู่หลายสาขา ต่อมาเมื่อปี ๒๕๔๙ จึงได้ขอลาออก เพื่อทำงานส่วนตัว และสิ่งที่ยังทำอยู่เสมอก็คือ การสะสมและบูชาองค์พ่อจตุคามฯ ตลอดเวลา รวมทั้งได้จัดทำเว็บไซต์ ราชันดำ (rachandam.com) เพื่อเผยแพร่เกียรติคุณขององค์พ่อให้ปรากฏสู่สาธารณชนและผู้สนใจทั่วไป ให้ได้รับข้อมูลและข่าวสารที่ถูกต้อง ตรงตามความเป็นจริงที่สุด
ในการจัดทำเว็บไซต์ “ราชันดำ” คำถามหนึ่งที่คุณสุวัฒน์มักจะได้รับอยู่เสมอ คือ องค์พ่อจตุคามฯ หายไปไหน ? จะกลับมาอีกไหม ? จะกลับมาเมื่อไร ?
คุณสุวัฒน์บอกว่า “ผมจะตอบทุกคนว่า องค์พ่อไม่ได้ไปไหน ท่านยังอยู่ที่นี่ ยังอยู่กับพวกเรา และพร้อมจะช่วยเหลือทุกคน ที่เคารพศรัทธาเลื่อมใสท่านอย่างจริงใจ พ่อไม่ได้มาตามกระแสนิยม และไม่ได้จากไปตามกระแสนิยม คนต่างหากที่ทิ้งท่านไป จากท่านไปเอง โดยเฉพาะคนที่เคยได้รับผลประโยชน์จากท่าน ก็ให้ความเคารพกราบไหว้ท่าน พอไม่ได้อะไรจากท่าน ก็พากันเลิกนับถือ เลิกไหว้ เลิกแขวนองค์พ่อ เรียกว่าศรัทธาตามกระแสนิยม เป็นแฟชั่นมากกว่าความเลื่อมใสอย่างแท้จริง จิตใจจึงไม่ได้ผูกพันสัมผัสกับท่าน ก็เลยไม่มีประสบการณ์ในองค์พ่อ สำหรับผมและเพื่อนๆ ในกลุ่มสมาชิกเว็บไซต์ “ราชันดำ” ทุกคนมีประสบการณ์อยู่เสมอ เพราะศรัทธานับถือท่านอย่างจริงใจ ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ทุกคนจึงมักจะขออะไรๆ จากพ่อได้เสมอ แม้แต่ที่จอดรถตามห้างบางแห่งที่หายาก ก็ยังขอท่านได้”
สำหรับการจัดสร้างองค์พ่อจตุคามฯ ในช่วงที่ดังสุดๆ จนเกิดปรากฏการณ์จตุคามฯ ล้นตลาด ส่งผลกระทบถึงกระแสนิยมที่ตกลงอย่างรวดเร็ว สาเหตุอย่างหนึ่งมาจากผู้สร้างไม่ได้สร้างด้วยจิตใจอันบริสุทธิ์ คิดแต่ผลประโยชน์ส่วนตัวที่จะได้รับ สร้างเพราะเก็งกำไรกันมากกว่าการกุศล บางรายขายได้เงินถึง ๔๐-๕๐ ล้านบาท แต่ถวายวัดเพียงล้านเดียว เอาเงินจากแรงศรัทธาทำบุญของชาวบ้าน ไปใช้ส่วนตัวมากกว่าถวายวัด หรือช่วยการกุศล อย่างนี้ไม่น่าจะถูกต้องนัก ก็เลยได้รับผลอย่างที่เห็นๆ กันอยู่
อย่างไรก็ตาม สุวัฒน์บอกว่า ในช่วงดังกล่าวก็ยังมี “จตุคามฯ” หลายรุ่นที่สร้างด้วยความบริสุทธิ์ใจ ตั้งใจทำบุญกุศลจริงๆ เมื่อนำองค์พ่อฯ ไปใช้แล้วก็ได้ผลดีเหมือนกัน ผู้ศรัทธานับถือก็ต้องพิจารณากันเอาเอง
ทุกวันนี้คุณสุวัฒน์ยังมีองค์พ่อจตุคามฯ มากพอสมควร โดยเฉพาะพระบูชา มีครบทุกรุ่น บางรุ่นก็มีหลายองค์ องค์พ่อพิมพ์กลมรุ่นแรก ปี ๒๕๓๐ มีมากกว่า ๓๐ องค์ ล้วนเป็นชนิดที่คัดสวยเป็นพิเศษ หรือเนื้อพิเศษที่หายาก และหากไปพบเห็นองค์สวยคมชัดมากๆ ที่ไหนในทุกวันนี้ ก็ยังสนใจเช่าบูชาอยู่เสมอ เพราะถูกโฉลกกับท่านมาก และท่านก็ได้เมตตาให้ความช่วยเหลือเสมอ
ตลอดเวลาที่ผ่านมา คุณสุวัฒน์ไม่เคยจัดสร้างวัตถุมงคลองค์พ่อจตุคามฯ เลย เพิ่งจะสร้างขึ้นเป็นครั้งแรก ร่วมกับเพื่อน เมื่อเร็วๆ นี้ ชื่อรุ่น “มหาจักรพรรตราธิราช” มี ๒ แบบ คือ พระบูชาจตุคามรามเทพ จำนวนสร้าง ๒๓๕ องค์ และมีดหมอ จำนวน ๑๖๔ เล่ม เพื่อนำเงินรายได้ (หลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว) ส่วนหนึ่งถวายวัดอัมพวัน อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช สร้างวิหารองค์พ่อจตุคามรามเทพ และซ่อมแซมหลังคาอุโบสถ เงินรายได้อีกส่วนหนึ่ง ถวายวัดนพรัตนาราม (หลวงพ่อหม่ำ) อ.นบพิตํา จ.นครศรีธรรมราช เพื่อสร้างเสนาสนะและถาวรวัตถุภายในวัด
วัตถุมงคลรุ่นนี้ได้ประกอบพิธีบวงสรวง (เทวาภิเษก) และปลุกเสกเรียบร้อยไปแล้ว เมื่อวันอังคารที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๓
คุณสุวัฒน์และเพื่อน ได้จัดสร้างวัตถุมงคลรุ่นนี้อย่างพิถีพิถัน โดยเฉพาะในเรื่องของ “มวลสาร” มีมากเป็นพิเศษ รวมทั้งรูปแบบที่สวยงามอลังการ เมื่อมีข่าวออกมา จึงได้รับความสนใจจากบรรดาลูกพ่อจตุคามฯ (ที่แท้จริง) อย่างล้นหลาม ดังรายละเอียดที่สามารถหาอ่านได้ในเว็บไซต์ ราชันดำ (www.rachandam.com) หรือสอบถาม โทร. ๐๘-๗๕๑๒-๑๑๖๖
ผู้เขียน : ตาล ตันหยง
ที่มา : คมชัดลึกออนไลน์