การเป็นครูบาอาจารย์ สายฆราวาส ต้องเจอหลายอย่างเหมือนด่านหลายชั้น จากการพิสูจน์ของคนรอบด้านรอบตัว และคนใกล้ชิด ทำดีก็ได้ผลดี ทำเสียบ้างก็มีคนมองจำภาพแย่นั้นยากที่จะแก้ไข
เมื่อเป็นครูบาอาจารย์สิ่งหนึ่งที่ต้องทำให้ได้ คือ “เมตตา” คือพื้นฐานที่ต้องเป็นอยู่ในสันดานไม่ใช่แค่นิสัย
และความเมตตาต้องมากขึ้นเรื่อยๆ และอีกอย่างที่ไม่ว่าจะเป็นครูบาอาจารย์สายฆารวาสหรือสายพระ คือ “อย่าไปหลงกับชื่อเสียงหรือยึดติดในลาภสักการะ” เพราะมันจะทำให้หลง มัวเมากับกิเลส ซึ่งข้อนี้จะยากที่สุด ปัจจุบันบอกเลยหายากมาก ที่ผ่านมาที่ไม่ใช่ครูบาอาจารย์ของผมก็ยังไม่เคยเจอเลย (ถ้าเจอก็จะบอก)
เมื่อทำดีก็เสมอตัว ทำไม่ดีในสายตาคนอื่นนะ (ไม่เกี่ยวกับศีล) ก็แย่ลง ติดลบ ดูเป็นครูบาอาจารย์ที่ไม่น่านับถือ
บางทีมาขอให้ช่วย ขอได้ก็ศรัทธา ขอไม่ได้ก็เสื่อมถอยในศรัทธา
บางทีเราช่วยอยู่ พอได้ผล บอกว่ากูทำเอง เพราะมองว่าการกระทำการงานมาจากตัวเองทำ
บางทีก็หลังบ้านส่งพลังให้ พอได้ผล บอกว่าขอหลวงพ่อได้มา
บางทีก็สอนมานานไม่เคยจำ ไม่เคยคิดจะเปลี่ยนตัวเอง แต่พอมีปัญหาติดขัดก็มาขอให้ช่วย ต้องเอาให้ได้ผล ให้สำเร็จ มีความคาดหวังสูงจากครูบาอาจารย์
บางก็ช่วยแล้วแต่ไม่รักษาระดับสิ่งที่ครูบาอาจารย์สอน พอผลแย่เกิดขึ้นก็โทษครูบาอาจารย์ว่าทำไมเป็นแบบนี้
บ้างก็มองว่ามึงกับกูก็คนเหมือนกัน ตอนนี้กูดีแล้วไม่จำเป็นต้องมีมึงช่วยเหลือ (อันนี้เนรคุณ) ตอนมาหานี้ลำบากเลย พอดีแล้วลืมตัว ลืมกำพืด
บ้างก็คิดว่าสิ่งที่มึงสอนกับสิ่งที่กูคิด ไม่ต่างกัน กูรู้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องมาทำตาม
บางคนไม่รักษาสัมพันธภาพที่ดีกับครูบาอาจารย์ แต่เรียกร้องให้ช่วยเหลือราวกับต้องได้สิทธิพิเศษ (ไม่ได้สร้างบุพกรรมร่วมกันก็ยากปกติ)
สิ่งเหล่านี้คือส่วนนึงที่ต้องเจอในทุกๆ วัน หนีไม่พ้น ต้องผ่าน และเป็นเรื่องส่วนหนึ่งถ้าเราจะต้องเป็นครูบาอาจารย์สายฆารวาส เรื่องเล็กๆ แบบนี้เหมือนมดกัด
ผมเองคนนึงที่ผ่านมาไม่ได้โชคดี และบอกเลยว่าไม่เคยอายที่จะป่าวประกาศบอกว่าตัวเองมีครูบาอาจารย์ดี มีแต่ภูมิใจที่วันนี้ดี “เพราะมีครู” ชีวิตมาจากติดลบ มาถึงตรงนี้เพราะคำว่า “ศรัทธา” ในครูบาอาจารย์ เปลี่ยนความคิด เปลี่ยนนิสัย ยอมที่จะถูกครูบาอาจารย์ด่าว่าสอน เพื่อให้ตัวเองดี และไม่เคยเทียบตัวเองเสมอเหมือนท่าน หรือคิดจะดูถูกในความคิดของท่าน
ผมว่าใครทำแบบนี้ได้ก็สำเร็จ ไม่มีลำบากในชาตินี้แน่นอน
ปล. บางคนแม่งสรรเสริญคนอื่น มองคนอื่นดี ทั้งที่แม่งไม่เคยช่วยเหลือมึงเลย แต่คนทำดี ช่วยเหลือ เป็นห่วง มึงกลับมองข้าม คนแบบนี้หละเขาเรียกว่าไม่เจริญ (ไม่เจริญทางจิตใต้สำนึก) เพราะมึงตาบอดมองไม่เห็น
บทความนี้เป็นบทความที่คัดลอกมา
ที่มา : Oil Thanames
ผู้เขียน : Oil Thanames