สกิลการสะสมพระเครื่องแบบนักลงทุน
ตรรกะการสะสมพระเครื่องแบบนักลงทุน อาจจะขัดแย้งกับนิยามการสะสมที่ลูกเพจเคยได้รับมา แต่ผมจะอธิบายถึง “การเก็บเพื่อลงทุน” อย่างเดียวครับ เรื่องพุทธศิลป์ พุทธพานิช พุทธคุณ อิทธิปฎิหาริย์ หรือความศรัทธา ผมไม่พูดถึงในบทนี้ บทนี้ผมว่ากันตรงๆ ด้วยเรื่อง “การลงทุนการสะสมเพื่อหวังให้การลงทุนนั้นงอกเงย” อย่างเดียว เป็นแนวทางการลงทุนแบบการตลาด แบบนักลงทุน และเซียนรุ่นเก่าเก๋าเกมส์บางคน หรือโคตรเซียนในตำนาน และคนสนิทเพื่อนเซียนหลายๆ คน ก็ใช้แนวทางนี้เช่นกันครับ
หลายๆ คนพอมีเงินแล้วอย่าพึ่งฮึกเหิม เซียนพระหลายคน พอฟลุ๊กอะไรหน่อยก็ฟิต อยากจะซื้อพระในดวงใจมาสะสม การสะสมพระนั้นถูกต้องแล้ว หากมองในแง่ของการลงทุน (ถ้าเก็บพระตลาด พระแท้นิยมสากล) ไม่ใช่ว่าแท้แต่เป็นพระไม่เล่น เก็บ 10 ปี ก็ไม่มีราคา แต่ว่าพระอะไรนั้นผมคงไม่พูดถึง เพราะจะเป็นการชี้นำการตลาด หรืออาจมองว่าผมเชียพระรุ่นนั้น ซึ่งอาจทำให้เข้าใจเจตนาผมผิด และทำให้บทความนี้ไม่ใช่คำสอนอีกต่อไป ลดความน่าเชื่อถือ อันผิดเจตนาของผม “พระตลาด” ก็เปรียบเหมือนรถ พระที่มีสภาพคล่องคือ “พระที่ขายที่ไหนก็ได้” เช่น พระองค์นี้เป็นพระกรุงเทพ แต่ไปวางขายเชียงใหม่ก็มีคนถามซื้อ หรือไปขายที่ชุมพรก็มีคนขอซื้อ แบบนี้เรียกพระตลาด ขายได้ทุกที่
เหมือนรถฟอจูน ที่เป็นรถตลาด หากเป็นพระหายากพิเศษลึกลับ ไม่มีของหมุนเวียน และไม่มีราคากลาง หรือราคาสถิติที่ซื้อหากันล่าสุด พระประเภทนี้อาจขายได้ราคาแบบคาดไม่ถึงหากขายถูกคน แต่ก็ขายยากด้วยเช่นกันถ้าขายผิดคน หรืออาจไม่ได้ราคา พระประเภทนี้ก็เปรียบเหมือนรถคลาสสิค รถเต่า เล่นเฉพาะกลุ่ม หากคนเล่นก็ซื้อแพง แต่เวลาไปขายเต๊น รถ 200,000 เต๊นอาจซื้อแค่ 50,000 หรือหากไม่ขายเซียน (เต๊น) อาจจะเอามาจอดขายเองหน้าปากซอยบ้าน ซึ่งอาจจะจอดเป็นปีหรือเป็นเดือน หรือโชคดีอาจจอดแค่วันหรือ 2 วัน ก็อาจมีคนที่ชอบรถประเภทนี้ผ่านมาเห็น และอาจขายได้เลย ก็เป็นไปได้หมด หรืออาจจะจอดจนที่ปัดน้ำฝนแห้ง ขับเข้าไปจอดข้างทางเพื่อติดป้ายขาย และขับมาเก็บบ้าน เข้าออกทุกวัน กว่าจะขายได้ ทุกอย่างเป็นไปได้หมดเช่นกัน และคนจะซื้อพระประเภทนี้ก็ต้องเหลือประมาณนึง เพราะเป็นรถสวยงาม อ็อฟชั่นพิเศษ ไม่ใช่รถใช้งานในชีวิตประจำวัน ในพระกรณีนี้
หรืออีกประเภท พระแท้แต่ไม่นิยม ก็เหมือนรถที่หาอะไหล่ยาก พวกฮุนได แดวู ขายใครก็ไม่มีใครอยากซื้อ ขายยาก ก็อยู่ที่จะเลือกว่าเก็บแบบไหน แนวทางเปรียบเทียบคร่าวๆ ครับ ตั้งใจว่าจะเขียนให้กระชับที่สุดในบทนี้
แต่สาระสำคัญของการสะสมแบบนักลงทุน ไม่ว่าจะเป็นเซียนหรือนักสะสม เวลามีเงินหรือร่ำรวยอะไรมา อย่าพึ่งเหิมทำเป็นฟิตเสี่ยนซื้อ เพราะมีโอกาสจะโดนราคาอนาคต ซึ่งตามหลักการค้าการลงทุน ท่านขาดทุนตั้งแต่เช่าแล้ว แล้วหากเงินไม่เหลือจริง โดยเฉพาะเซียนที่พึ่งตั้งตัว เก็บไม่นานก็หิว สุดท้ายก็งัดมาขายกินก่อนเวลาอันควร ก็ขาดทุนอีกเช่นเคย (ส่วนใหญ่) เพราะเราฟิตซื้อ กะจะมาสะสม กึ่งโชวกึ่งขาย ประเภทนี้หากไม่เหลือจริงอย่าห้าว เพราะปีนึงจะหิวหลายรอบ เก็บได้ชุดนึงยังไม่ทันงอม พอหิวก็งัดมาขายหมด ทั้งๆ ที่ยังดิบๆ อยู่ แต่ต้องซื้อในราคาหน้าตู้ แต่ถ้าเหลือหรือเงินเย็นพอที่จะรอจนสุกงอมได้ มีกำไรแน่นอนแบบนั้น แต่อย่าไปบ้าจี้เก็บตามเค้า หากไม่ได้เหลือขนาดนั้น เห็นช้างขี้อย่าขี้ตามช้าง
แต่ถ้าหากจะพูดถึงการเก็บสะสมแบบนักลงทุนหรือเขี้ยวลากดินซือแป๋แบบโคตรเซียนในตำนาน จะต้องมีกำไรตั้งแต่ตอนซื้อ จะไม่ซื้อราคาอนาคตเด็ดขาด เช่น พระเล่น 10,000 จะซื้อเข้าในราคาซื้อขายปัจจุบัน คือ 7,000 – 9,000 บาท หากขายเลยก็มีกำไรตั้งแต่วินาทีแรกที่ซื้อ หากจะเก็บต่อก็มีกำไร หากเส้นทางในอาชีพสะดุดกลางทาง ระหว่างทางไม่มีของขาย ช่วงเงียบเหงา จะงัดมาขายตอนนั้นก็มีกำไร เพราะซื้อไว้ในราคาที่มีกำไรตั้งแต่แรก หรือหากเส้นทางอาชีพมีของเข้าต่อเนื่อง ยิ่งเล่นยิ่งเหลือ ก็เก็บยาว เซียนหลายคนและบางคนสนิทกับผม แต่ผมไม่เอ่ยชื่อ บางคนที่เหลือเยอะก็เก็บพระประเภทนี้ไว้เต็มโอ่ง ในอดีต แก็งค์เหมาพระทั่วราชอณาจักรในอดีตและนักเล่นของเก่า ที่โด่งดังอยู่ในโซเชี่ยลตอนนี้ สอนดูพระสมเด็จ คือหลุดทุนแล้ว ไม่ได้ขายที่มาซื้อ
แต่พระประเภทนี้ของเซียนแทบไม่มีต้นทุนแล้วในอดีต ขายส่วนนึงเก็บส่วนนึง กำไรเหลือเป็นพระ ไม่ว่าจะเป็นเซียนหรือไม่ใช่เซียน แนวทางเดียวกัน หากจะพูดถึงการลงทุน ต้องมีกำไรตั้งแต่ซื้อ ส่วนจะขายเมื่อไร กำไรมากน้อย ก็เป็นเรื่องระหว่างทาง แต่จะไม่ซื้อพระราคาอนาคตเด็ดขาด เพราะในทางปฎิบัติ ขาดทุนตั้งแต่วินาทีแรกที่ซื้อแล้ว ถึงแม้ระยะยาวจะมีกำไรเช่นกันก็ตาม นักลงทุนที่เข้าใจกฎนี้ดีจะหลีกเลี่ยงเด็ดขาด ต้องมีกำไรตั้งแต่วินาทีแรกที่ลงทุน ซื้อเบียดได้หากพระสวยหรือแชมป์ ประเภทนี้เบ่งได้ เพราะเป็นสถิติ แต่ถ้าทั่วไปสวยปกติต้องซื้อในราคาซื้อขายมีกำไร อย่าหึกเหิมทำเป็นเสี่ยนซื้อเวลารวยอะไรมา หากสายป่านไม่ยาวเสี่ยง
ผมบอกอะไรให้ พระที่ผมรับจำนำไว้ เกินครึ่งของคนที่เอามาจำนำ นอกจากขาดสภาพคล่องทางการเงินแล้ว ก็มีปัญหานี้เป็นปัญหาหลัก อยากจะเดินตามไอด้อล แต่ทางเดินคนล่ะทาง พอรวยหน่อยก็เสี่ยนซื้อ พอหิวมาก็ทำใจขายไม่ได้เพราะขาดทุน ซื้อมาแพง สุดท้ายก็มาจำนำยอมเสียดอก เพราะซื้อราคาอนาคต กะเอามาสะสมกึ่งโชวกึ่งขาย ถึงได้บอกว่าต้องมีกำไรตั้งแต่วินาทีแรกที่ซื้อ หากมองในเรื่องการลงทุน หรือยกตัวอย่างให้พอเข้าใจแนวคิดของนักลงทุน อันนี้ไม่ใช่ผมนะ อย่าไปดราม่าเล่าสู่กันฟัง เป็นแนวคิดของลูกค้าผมคนนึง เป็นเพื่อนผมที่ทำหมู่บ้านจัดสรรขาย
บอกว่าหลายๆ คน อยากเป็นเสือนอนกิน ซื้อบ้านไว้ปล่อยเช่า เพื่อเอาเงินจากค่าเช่ามาส่งธนาคาร ท้ายสุด 20 ปี หรือ 30 ปี เมื่อผ่อนหมด ตัวบ้านก็เป็นของเรา หลายคนมีบ้านอยู่ 7-8 หลัง ในใจคนประเภทนี้บ่งบอกถึงความมั่นคง แต่บางครั้งค่าเช่ากับค่าเงินต้นที่ส่งธนาคารบางทีก็ควักเนื้อทุกเดือน เช่น ส่งธนาคาร 15,000 แต่ปล่อยเช่าได้เดือนละ 5,000 – 8,000 บาท แต่ถ้านักลงทุนที่เข้าใจจุดนี้ดี จะไม่ซื้อบ้านประเภทนี้ เพราะจะมีเงินซื้อได้แค่ไม่กี่หลัง เงินก็หมด เพราะเรายังต้องกวักเนื้อตัวเองอยู่ และก็เป็นราคาที่เราขาดทุนตั้งแต่วินาทีแรกแล้วเช่นกัน จำนวนบ้านที่ครอบครองไม่ได้บ่งบอกถึงความมั่นคงที่แท้จริง
แต่นักลงทุนตัวจริง จะเลือกซื้อบ้านที่มีกำไรตั้งแต่ซื้อ คือค่าเช่าแพงกว่าที่จะส่งให้ธนาคาร เช่น ส่งธนาคารเดือนละ 15,000 ต้องปล่อยเช่าได้เดือนละ 17,000 และศึกษาอนาคตฐานทำเลในระยะสั้นว่าราคาค่าเช่าจะเพิ่มขึ้นเท่าไร และหากขายจะได้เท่าไร ขาดทุนหรือมีกำไร หากปล่อยเช่าไปแล้วส่วนนึง ถึงแม้จะหายากในความเป็นจริง แต่นักลงทุนที่ดีจะใจเย็นพอ หากว่ากันที่เรื่องการลงทุน. หากซื้อได้ในราคาที่มีกำไรตั้งแต่แรก ประเภทนี้จะซื้อกี่หลังก็ได้เช่นกัน ยิ่งซื้อยิ่งรวย ยิ่งเยอะยิ่งชอบ ไม่ใช่ขาดทุนตั้งแต่ซื้อ หากมีกำไรก็ซื้อได้เป็นร้อยหลัง จริงๆ เรื่องนี้มีตัวอย่างจริงๆ แต่อธิบายยากและยาว มีรายละเอียดเยอะ กลัวจะนอกเรื่อง และไม่ใช่ดีเอ็นเอของเพจสมาคมพระเก๊ ผมเลยยกตัวอย่างพอหอมปากหอมคอครับเรื่องบ้าน
เพจสมาคมพระเก๊
ปล. สะสมพระ อย่าไปซื้อโชว์ อย่าไปฟังแอดมินไดร้ฟ อย่าไปซื้อเอาใจใคร ใจเย็นๆ ลงทุนแบบมีสติ ถ้าเหลือเยอะก็อีกเรื่อง เก็บแบบมีแบบแผน มีกำไรเสมอตัวตั้งแต่ซื้อ ส่วนจะเก็บยาวหรือรอจนสุกงอมก็อยู่ที่การตัดสินใจ แต่ต้องไม่ขาดทุนตั้งแต่วินาทีแรกที่ซื้อ ถึงจะเป็นการลงทุนครับ
บทความนี้เป็นบทความที่คัดลอกมา
ที่มา : สมาคมพระเก๊