“พระเครื่อง” กับความศรัทธาที่อยู่คู่คนไทยมายาวนานและมีกำไรมหาศาล
พระเครื่องนั้นอยู่คู่กับสังคมไทยมาอย่างยาวนาน และเชื่อว่าหลายคนมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว แต่แท้จริงแล้ว ตั้งแต่เด็กจนโตทุกคนต้องผ่านการห้อยพระมาแล้วแน่นอน แต่เมื่อมองลึกลงไปกว่านั้น วงการพระเครื่องนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่หลายคนสนใจแต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง เราจะไปค้นหาเรื่องราวเกี่ยวกับพระเครื่องที่เป็นทั้งเครื่องราง ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจและทรัพย์สินที่ก่อให้เกิดกำไรมหาศาล
พระเครื่องกับคนไทยเป็นของคู่กันมาตั้งแต่ในอดีต โดยเฉพาะชายชาตรี จะพูดไปพระเครื่องก็เริ่มจากนักเลงที่ต้องการสิ่งยึดเหนี่ยวทำให้หนังเหนียวหรือแคล้วคลาด ถ้าคุ้นเคยคนไทยก็คงเป็นตี๋ใหญ่ หรือที่กำลังดังตอนนี้เป็นขุนพันธ์อดีตนายตำรวจชื่อดัง ซึ่งมีชื่อเสียงในการปราบโจรร้ายทั่วประเทศ
พระเครื่องนั้นหลักๆ มีเนื้อชิน ดิน ผง โลหะ โดยมูลค่าของพระเครื่องขึ้นอยู่กับความนิยม ถ้าไม่รวมพระเบญจภาคี (พระสมเด็จฯ นางพญา พระรอด พระซุ้มกอ พระผงสุพรรณ) ในสายพระเกจิความนิยมอันดับหนึ่งคือ หลวงปู่ทวด หลวงปู่ทิม หลวงปู่โต๊ะ หลวงพ่อพรหม เป็นต้น อีกปัจจัยของมูลค่าอยู่ที่จำนวนการสร้าง บางองค์ท่านสร้างน้อยแต่ความต้องการเยอะ ราคาจะสูงขึ้นตามไปด้วย ทางด้านกระแสสังคมก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่เป็นปัจจัยทำให้เกิดความต้องการมากขึ้น อย่างเลสเตอร์ซิตี้แชมป์พรีเมียร์ลีกทีมล่าสุด มีข่าวว่าฝังองค์จตุคามรามเทพรุ่นปี 2530 จากวัดศรีมหาธาตุ ใต้พื้นหญ้าสนามฟุตบอลคิงส์พาวเวอร์สเตเดี้ยม ซึ่งจุดกระแสขององค์จตุคามกลับมาร้อนแรงอีกครั้งในตลาดพระเครื่อง หลังจากซบเซาไปพักใหญ่ๆ
ในปัจจุบัน ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนทั่วไปหรือเซียนพระมองพระเครื่องไม่ต่างจากแอคเซสซอรี่ที่มีการใส่โชว์กัน แต่ที่พิเศษกว่าคือ เป็นเครื่องประดับที่มีพุทธคุณปกป้องให้ผู้ครอบครองแคล้วคลาดจากภยันตราย หรือเสริมบารมีก็แล้วแต่ ซึ่งเหล่าเซียนพระการันตีว่าพุทธคุณนั้นเป็นเรื่องจริง แต่หลังจากได้รับพระจากการปลุกเสกแล้วอาจมีการทำผิดศีลผิดข้อห้ามโดยไม่รู้ตัวจึงทำให้พุทธคุณอาจเสื่อมบ้าง เพราะข้อห้ามตั้งแต่สมัยโบราณมีเยอะ ยกตัวอย่างห้ามบ้วนน้ำลาย ห้ามด่าว่าพ่อว่าแม่ ฯลฯ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทุกอย่างอยู่ที่การใช้ชีวิตไม่ประมาทและมีสติเป็นส่วนสำคัญที่สุด
ถ้าว่ากันเรื่องการเช่าพระนั้น ว่ากันว่าเก็บพระเครื่องดีกว่าเงินฝากธนาคาร เพราะราคาขึ้นมากกว่า ถ้าเป็นรุ่นนิยมกัน มีไว้อยู่กับตัว วันไหนต้องการใช้เงินคุณได้เงินแน่นอน ส่วนราคาซื้อขายราคาอยู่ที่ความพอใจทั้งสองฝ่าย ยกตัวอย่างเบญจภาคีระดับแชมป์เมื่ออยู่ในการครอบครองของมหาเศรษฐีระดับประเทศที่มองว่าเงินไม่ใช่เรื่องใหญ่ เขาอาจจะขายให้คุณพันล้านหรือให้ฟรีก็ได้ ไม่มีใครรู้ จะบอกว่าการที่ได้ครอบครองพระเครื่องระดับสุดยอดนั้นนอกจากเงินในกระเป๋าตังค์ต้องถึงแล้ว บุญวาสนาก็ต้องถึงด้วย ไม่ใช่เรื่องเกินเลยไปนัก
เมื่อพูดถึงเซียนพระ คนทั่วไปมักมองว่าต้องแม่นและไม่เคยพลาด แต่แท้จริงแล้วก่อนจะมาเป็นเซียน พลาดมาแทบทุกคน เมื่อพลาดแล้วก็ต้องกินเลือดตัวเอง จะเอาพระเก๊ไปขายต่อให้ลูกค้าทำไม่ได้อยู่แล้ว ถือว่าเป็นจรรยาบรรณของเซียนพระทุกคนที่ต้องยึดความซื่อสัตย์เป็นหลัก เรียกว่ากว่าจะได้คำนำหน้าว่าเซียนต้องสะสมประสบการณ์มาพอสมควร มีความใฝ่รู้ ครูพักลักจำ กล้าซื้อกล้าขาย เซียนพระต้องเน้นปฏิบัติเป็นหลัก เซียนพระบางคนถนัดไม่เหมือนกัน จะเก่งกันคนละแบบ เช่นคนนี้เก่งพระเหรียญ แต่อีกคนเก่งพระผง พอมาคุยกันก็จะแบ่งปันความรู้กัน เซียนพระต้องอัพเดทความรู้อยู่ตลอด บางทีต้องเปิดหนังสือทบทวนตำราบ้าง เรียกว่าอ่านเยอะกว่าตอนสอบเอ็นทรานซ์อีก มายุคนี้สิ่งสำคัญสำหรับเซียนพระอีกอย่างคือโทรศัพท์มือถือ ซึ่งช่วยได้เยอะมาก เวลาดูพระถ้าเกิดไม่มั่นใจก็ถ่ายรูปส่งไลน์ไปถามเพื่อนได้เลย แท้หรือเก๊รู้กันตรงนั้น ซึ่งบอกตรงๆ ว่า ยุคก่อนคนที่เล่นพระหรือเซียนพระมักจะโลว์เทคโนโลยี แต่ยุคนี้เปลี่ยนไปแล้ว อะไรที่ทำให้อาชีพพวกเขาสะดวกสบายขึ้นก็พร้อมที่จะปรับตัว
นอกจากพระเครื่องแล้ว กล้องส่องพระก็เล่นกันด้วย ถ้าทั่วไปราคาเริ่มต้น 3 พันบาท จนไปถึงหลักแสน แล้วแต่ยี่ห้อและเกรด จริงๆ แล้วกล้องพวกนี้มีไว้สำหรับส่องเพชร ที่นิยมก็จะเป็นยี่ห้อ Carl Ziess จากเยอรมัน เรียกว่ามีราคาค่างวดไม่แพ้พระเครื่องรุ่นดีๆ ทีเดียว แต่ถ้าคุณอยากเป็นเซียนพระแบบเร่งรัดนั้น เซียนพระตัวจริงบอกว่ายากมากถึงมากที่สุด เพราะต้องใช้เวลาและประสบการณ์ เทคนิคง่ายสุดคือเช่าพระแท้ที่เราสนใจมาศึกษา ยังไงขอให้ดูของแท้ไว้ก่อนถือว่าเป็นทางลัดที่สุดแล้ว
สำหรับคนภายนอกที่มองว่าวงการนี้น่ากลัว โดยเฉพาะกรณีการสลับพระ เมื่อเราเอาไปให้เซียนดูที่ร้าน ซึ่งได้รับการยืนยันจากเซียนพระผู้มีประสบการณ์ว่าเป็นสิ่งยากที่จะสลับพระได้ เพราะพระแต่ละองค์นั้นตำหนิไม่เหมือนกัน และทางร้านก็ไม่มีทางเตรียมพระไว้ทันสำหรับสับเปลี่ยนอยู่แล้ว เรียกว่าสบายใจได้ในกรณีนี้ ส่วนตลาดพระเครื่องที่ได้มาตรฐานและดีที่สุดอยู่ที่พันธ์ุทิพย์งามวงศ์วาน โดยมีร้านเช่าพระกว่าพันร้าน และยังเป็นที่ตั้งของสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทยอีกด้วย
เมื่อถามถึงความสุขของการดูพระเครื่อง เซียนพระส่วนใหญ่ให้คำตอบคล้ายกันว่า “พระเครื่องคือพุทธศิลป์ เมื่อเราส่องดูพระนอกจากจะเห็นร่องรอยเรื่องราวในเหรียญ ในผง เหมือนการดูงานศิลปะในพิพิธภัณฑ์ แต่เปลี่ยนมาเป็นการเสพย์ศิลป์ในมือของเราแทน พระแท้ไม่แท้รู้ตั้งแต่ยังไม่ได้ส่อง แต่ที่ส่องเพราะต้องการดูความสวยงามมากกว่า”
ขอบคุณข้อมูล : ตุ้ยเกจิ , นัทธ์ ลิ่มศิลา
บทความนี้เป็นบทความที่คัดลอกมา
ที่มา : men.mthai.com
ผู้เขียน : Vodmon