ตามตำนานของชาวล้านนาบันทึกไว้ว่า ในสมัยโบราณสมัยหนึ่งเกิดทุกข์เข็ญ ทุพภิกขภัย ข้าวยากหมากแพง ประชาชนเดือดร้อน บังเกิดความอดอยากขึ้น จึงมีพระภิกษุผู้เป็นอริยะรูปหนึ่งแนะนำให้สร้างพระเศรษฐีนวโกฏิขึ้น เพื่อสักการบูชาแก้เคล็ดในความทุกข์ยากทั้งหลาย และเมื่อสร้างและฉลองสำเร็จ ก็ปรากฏมีเหตุการณ์อัศจรรย์ คือ ความทุกข์ยากอดอยากทั้งหลายได้บรรเทาลงและสงบระงับในที่สุด จึงเป็นคติที่เชื่อถือของชาวล้านนาว่า ถ้าผู้ใดได้บูชาพระเศรษฐีนวโกฏิแล้ว จะมีสิริมงคล ทำมาค้าขึ้น ประสบแต่โชคลาภ อยู่เย็นเป็นสุข ด้วยอานิสงส์แห่งบารมีธรรมของเศรษฐีทั้ง 9 ท่าน
ตามคติความเชื่อที่ว่า พระเศรษฐีนวโกฏิ เป็นที่สุดแห่งพุทธคุณด้านมหาเศรษฐี ร่ำรวยมั่งมีทรัพย์ ถ้าผู้ใดได้กราบบูชาพระเศรษฐีนวโกฏิแล้ว จักเป็นผู้มีอำนาจบารมี ยังผลให้เป็นผู้ที่เจริญในโภคทรัพย์ เงินทอง การงานต่างๆ สิ่งที่พึงปรารถนาพึงสำเร็จก้าวหน้ามั่นคง และมั่งมีตลอดกาล
จนในที่สุด เจริญขึ้นเป็นมหาเศรษฐีทรัพย์สมบัติมากมาย ประสบแต่โชคลาภ ปกปักรักษาให้บ้านเรือนร่มเย็นเป็นสุข และเจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ ทุกภพ ทุกชาติไป คาถาบูชาพระมหาเศรษฐีนวโกฏิ
เปิดตำนานพระเศรษฐีนวโกฏิ
ในขณะที่อีกตำราหนึ่งบันทึกเอาไว้ว่า ตำราการสร้างพระกริ่งเศรษฐีนวโกฏินั้น มาจากที่ใดไม่ปรากฏ แต่สันนิษฐานกันว่าเป็นพระที่พระเถราจารย์ชาวรามัญโบราณสร้างไว้ โดยสมัยก่อนอาจใช้ไม้มาแกะเป็นพระเก้าหน้าแทนการหล่อด้วยโลหะ เพราะในวงการเคยพบพระไม้แกะเป็นรูปพระเก้าหน้า หรือพระนวโกฏิ มาจากเมืองมอญ ไม้ที่ใช้แกะพระนวโกฏินั้นมีด้วยกันหลายชนิด ที่นิยม เช่น ไม้ขนุน ไม้จิก หรือไม้เนื้อแข็งอย่างสักและประดู่แดง พระเศรษฐีนวโกฏิตามตำรามอญนั้น เคยได้ยินคนแก่ชาวมอญปทุมเขาเล่าให้ฟังว่า ที่ใต้ฐานพระจะเจาะให้เป็นรูเพื่ออุดของมงคลจำพวกตะกรุดทองคำ พระบรมสารีริกธาตุ หรือพระธาตุ พระสิวลี แทนก็ได้ และจะอุดรูด้วยชันโรง หรือผงวิเศษของพระอาจารย์เจ้าผู้สร้าง
นอกจากนี้มีบันทึกเอาไว้ด้วยว่า พระเถราจารย์ชาวมอญ ยังมีตำราการสร้างพระเครื่องชั้นยอดอีกอย่างที่เรียกว่า พระอาหาร กล่าวคือ ในขณะกระทำภัตรกิจ หากอาหารคำใดที่ฉันเข้าไปแล้วมีรสชาติหวานอร่อยลิ้น พระเถราจารย์ผู้เคร่งครัดในพระธรรมวินัยชาวรามัญจะคายข้าวคำอร่อยคำนั้นใส่มือทันที และจะนำข้าวคำอร่อยมาตากแดดให้แห้งเก็บสะสมไว้ เมื่อได้จำนวนมากขึ้นแล้วก็จะนำมาตำบดให้ละเอียดเพื่อผสมเป็นมวลสารสร้างพระต่อไป
พระที่สร้างได้นี้เขาเรียกว่า พระอาหาร มีคุณวิเศษคือ เมื่อสร้างเป็นองค์พระแล้ว ปลุกเสกด้วยบทพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณแล้ว จะมีคุณด้านโภคทรัพย์ ไม่อดอยาก ในเรื่องอาหารการกินเลย ไม่อดอยากในเรื่องทรัพย์สินเงินทองเลย ว่ากันว่า หลวงพ่ออุตตมะท่านก็เคยสร้างพระอาหารไว้เหมือนกัน รู้สึกจะสร้างไว้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
ซึ่งต่อมาเมื่อคติการสร้างพระกริ่งในเจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราชแพแห่งวัดสุทัศน์ ได้แพร่หลายไปสู่วัดต่างๆ การสร้างพระกริ่งในช่วงหลังจึงพยายามกระทำพิธีกรรมตามแบบสมเด็จพระสังฆราชแพทั้งสิ้น คือ มีการจารอักขระแผ่นยันต์ต่างๆ สุมหุ่น และพิธีเททองหล่อพระ การสร้างพระกริ่งเศรษฐีนวโกฏิก็เช่นกัน พระอาจารย์ผู้สร้างได้ดัดแปลงเอาส่วนดีของการสร้างพระกริ่งมาใช้ในการสร้างพระเศรษฐีนวโกฏิ เพียงแต่แผ่นยันต์ในการสร้างพระเศรษฐีนวโกฏินั้นจำต้องใช้พระยันต์เฉพาะในด้านโภคทรัยพ์มาเสริมเพิ่มเติมให้ขลังขึ้นเท่านั้น
“ชื่อได้ เวลาดี” นี่คือเหตุผลการสร้างพระเศรษฐีนวโกฏิของวัดต่างๆ การจัดสร้างวัตถุมงคลต่างๆ ทั้งที่วัดและพระสงฆ์จัดสร้างขึ้นเอง รวมทั้งองค์กรการกุศลต่างๆ ล้วนเป็นพุทธพาณิชย์ทั้งสิ้น เมื่อเป็นพุทธพาณิชย์ การเลือกสร้างวัตุมงคลประเภทใดประเภทหนึ่ง ต้องดูกระแสตอบรับ และความต้องการของตลาด มิเช่นนั้นผู้สร้างมีโอกาสขาดทุนสูง ในกรณีของการจัดสร้างพระเศรษฐีนวโกฏิ ถือว่าเป็นพระที่มีมงคลนามสุดยอดแห่งความรวยทุกๆ ด้าน พระเศรษฐีนวโกฏิเป็นรูปเคารพแทนมหาเศรษฐีทั้ง ๙ ซึ่งทั้งหมดเป็นมหาเศรษฐีในสมัยพุทธกาล
พระเศรษฐีนวโกฏิ ท่านเหล่านี้เป็นผู้สร้างคุณประโยชน์อเนกอนันต์ให้แก่พระพุทธศาสนา มีความมั่งคั่งในโภคทรัพย์อยู่ในระดับเดียวกับกษัตริย์ ทั้งยังเป็นสัมมาทิฐิ และยังเป็นพุทธอุปฐากองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งพระองค์ทรงยกย่องว่าท่านเหล่านี้เป็นผู้เลิศในการทำทาน และเป็นยอดของมหาเศรษฐีทั้งปวง มหาเศรษฐีทั้ง ๙ ท่านนี้ ล้วนสำเร็จเป็นพระอริยบุคคล ทั้งที่ดำรงเพศฆราวาสตามตำนานของชาวล้านนา
สัณฐานของพระเศรษฐีนวโกฏิ มี ๙ พระพักตร์เรียงกัน หรือบางแห่งทำให้ซ้อนกันขึ้นไปด้านบน ปางนั่งขัดสมาธิเพชรบนฐานบัว พระหัตถ์พนมมือ ระดับนิ้วพระหัตถ์กลางจะตรงต้นพระศอ (ปลายนิ้วกลางอยู่ตรงพระหนุพอดี)
พระเศรษฐีนวโกฏิ พระพักตร์ทั้ง ๙ แทนเศรษฐีต่างๆ ดังนี้
๑. ท่านธนันชัยเศรษฐี
๒. ท่านยัสสะเศรษฐี
๓. ท่านสุมานะเศรษฐี
๔. ท่านชะฏิกัสสะเศรษฐี
๕. ท่านอนาถปิณฑิกเศรษฐี
๖. ท่านเมนฑะกัสสะเศรษฐี
๗. ท่านโชติกะเศรษฐี
๘. ท่านสุมังคะกัสสะเศรษฐี
๙. ท่านวิสาขามหาอุบาสิกา
ขอกระซิบเบาๆ ว่า ถ้าต้องการร่ำรวยมั่งคั่งมั่งมี ไปหาที่สุดแห่งพระเครื่องกริ่งบูชาที่ผ่านพิธีพุทธาภิเษกสุดเข้มขลังเปี่ยมด้วยพุทธคุณด้านมหาเศรษฐี ร่ำรวยมั่งมีทรัพย์ จากวัดไหน รุ่นไหนก็ได้ ที่เราเชื่อมั่นศรัทธา รับรองว่าผู้ใดได้กราบบูชาจักเป็นผู้มีอำนาจบารมี เจริญในโภคทรัพย์ เงินทอง การงานต่างๆ สิ่งที่พึงปรารถนาพึงสำเร็จก้าวหน้ามั่นคง และมั่งมีตลอดกาล
บทความนี้เป็นบทความที่คัดลอกมา
ที่มา : www.komchadluek.net
ผู้เขียน : เอก อัคคี (facebook.com/Akeakkee Ake)