หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ศรัทธาเหนือปาฏิหาริย์
บรรยากาศในวัดท่าซุง ศรัทธาธรรมอันยิ่งใหญ่.
เรื่องคลื่นนี่ผมก็ชอบ เพราะว่าชอบดูคลื่น และพิจารณาคลื่นเป็นกรรมฐาน ก็เพราะอาศัยชอบเล่นเรือใบ เห็นคลื่นที่มากระทบฝั่ง คลื่นมันเกิดแต่ละลูก ไม่ใช่คลื่นลูกเก่า มันเป็นคลื่นลูกใหม่ ซึ่งทดแทนซึ่งกันและกัน …”
“… คลื่นในทะเล … ลมยังมีอยู่เพียงใด คลื่นก็จะมีอยู่เพียงนั้น ถ้าลมหมดไปเมื่อไหร่ คลื่นก็หาย เหมือนกับร่างกายของเรา ถ้าหมดลมเสียเมื่อไหร่ก็ชื่อว่า … ตาย …” พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชปรารภธรรมกับหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ตัดตอนจากหนังสือ “คำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุง” เล่ม 1
“หลวงพ่อพระราชพรหมยาน” หรือ “หลวงพ่อฤาษีลิงดำ” วัดจันทาราม (ท่าซุง) อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี ชื่อเสียงลือเลื่องด้านการบำเพ็ญวิปัสสนากรรมฐาน ตามปูมประวัติหลังมรณภาพ สังขารร่างกายของท่านมิได้เน่าเปื่อย และได้มีการเก็บรักษาไว้ที่วัดท่าซุงจนถึงปัจจุบัน
กล่าวกันว่า คนที่ต้องการเป็นศิษย์ “หลวงพ่อฤาษีลิงดำ” ไม่ต้องขออนุญาต แม้ว่าไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันเลยสักครั้งก็รับเป็นศิษย์ได้ เพียงปฏิบัติตนตามนี้
“ศิษย์ชั้นที่ 3” รักษาศีล 5 เสมอ อาจจะขาดตกบกพร่องบ้าง แต่ก็พยายามรักษาให้ครบถ้วนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ถัดมา “ศิษย์รุ่นกลาง” มีศีลบริสุทธิ์เป็นปกติ พยายามรักษาอารมณ์ให้ทรงสมาธิเสมอตามสมควร ไม่ละเมิดศีลเป็นปกติ
ลำดับสุดท้าย “ศิษย์เอก” รักษาศีล 5 ครบถ้วนเป็นปกติ เคารพพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ ไม่สงสัยในความดีของท่าน มีอารมณ์ตั้งมั่นว่า “ถ้าตายไปจากคนชาตินี้ ขอไปนิพพานจุดเดียว พยายามละความโลภ โกรธ หลง”
ย้อนอดีตไปกว่า 40 ปี พุทธศักราช 2518 บันทึกเรื่องราวไว้ในเว็บไซต์ www.watthasung.com เมื่อครั้งหลวงพ่อร่วมเดินทางไปบำรุงขวัญทหารพื้นที่เขตรับผิดชอบกองทัพภาคที่ 2 นำ “ผ้ายันต์มหาพิชัยสงคราม” และ “เหรียญเอกราช” ไปแจกให้กับทหารตามฐานปฏิบัติการชายแดน พร้อมได้มีโอกาสแสดงธรรม ท่านว่า “เราทุกคนอยากมีความดีด้วยกันทั้งนั้น แม้บางคนนึกว่าตนเองอยากมั่ง อยากมี อยากมียศ มีอำนาจ แต่ความจริงแล้วก็คืออยากมีดีนั่นเอง แม้เราจะมียศสูง แต่ถ้าใครมาว่าเราเป็นคนไม่ดี เราก็ไม่ชอบ เพราะฉะนั้น ใครอยากอะไรก็ตามเถอะ แต่ที่สุดของความอยากนั้นก็คือความดีนั่นเอง”
“ทหาร” ทุกคนต้องเป็นคนหนุ่ม แม้จะแก่อายุมากแล้วก็ต้องทำตัวเป็นคนหนุ่ม เพราะคำว่าทหารแปลว่าคนหนุ่ม คนหนุ่มนั้นจะต้องเป็นคนแข็งแรงว่องไว กล้าหาญบึกบึน มีไหวพริบปฏิภาณดี มีความสามัคคีรักใคร่กัน ไม่ทอดทิ้งกันเมื่อมีภัย ตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท
ข้อสำคัญที่สุด “ทหาร” ต้องยอมตายเพื่อประเทศชาติบ้านเมืองเมื่อถึงคราวจำเป็น
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ (หลวงพ่อพระราชพรหมยาน)
ศิษย์เอกหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค พระอาจารย์ชื่อก้องด้านวิปัสสนา มีลูกศิษย์ลูกหามากมายทั่วประเทศ บุญบารมีของท่านเป็นที่ประจักษ์แก่ศิษยานุศิษย์โดยทั่วไป บางคนก็ว่าท่านมีญาณหยั่งรู้วาระจิต แต่ที่แน่ๆ ท่านได้รับการถ่ายทอดวิชาเป่ายันต์เกราะเพชรมาจากหลวงพ่อปาน
“มหาวิหารแก้ว 100 เมตร” วัดท่าซุงอันสงบเย็น ทุกวันจะมีกระแสแรงศรัทธาจากผู้คนถ้วนทั่วทุกสารทิศ เดินทางเข้ามากราบไหว้บูชาเพื่อเป็นสิริมงคลกับตัวเองและครอบครัว ได้สัมผัสกับความอิ่ม เย็น สิ่งเตือนใจ สัจธรรมชีวิตที่บางคนอาจจะรู้สึกว่าเป็นสัมผัสที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ยากยิ่งที่จะอธิบายได้
บางคนก็ว่าเข้ามาแล้วเกิดมุมมองที่แปลกเปลี่ยน ได้เห็นเงาสะท้อนธรรมอันยิ่งใหญ่ ความอิ่มเอมของพระพุทธชินราชจำลอง แต่ให้รู้ไว้ด้วยว่า มหาวิหารแห่งนี้ มีเวลาเปิด-ปิดชัดเจน ช่วงเช้า 09.00-11.45 น. (ปิดเจริญพระกรรมฐานถึง 14.00 น.) เปิดช่วงบ่ายอีกครั้ง 14.00-16.00 น. (ปิดทำวัตรเย็นและเจริญพระกรรมฐาน)
“ศรัทธา” นำมาซึ่ง “ปาฏิหาริย์” ตั้งมั่นในการเจริญสมาธิ อย่าทำเพื่อโอ้อวด จะทำได้ดี ให้ถือใจพระพุทธเจ้าที่ว่า “ใครเขาจะมีกินมาก ใครเขาจะมีกินน้อย ใครเขาอ้วนมาก ใครเขาอ้วนน้อย ใครเขามีสาวกมาก ใครเขามีสาวกน้อย คนนั้นมีสมบัติมาก คนนั้นมีสมบัติน้อย คนนั้นเจริญสมาธิ วิปัสสนาญาณ แล้วยังแต่งตัวสวย ยังผัดหน้า ยังทาแป้ง ใครเขาจะดีจะชั่วอย่างไร เป็นเรื่องของเขา จงอย่าไปสนใจ เราจะนั่งสมาธิก็จงอย่านั่งให้บุคคลอื่นเห็น ถ้าหากไปทำอย่างนั้น พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า ยังมีกิเลสอีกมาก”.
ผู้เขียน : รัก-ยม
ที่มา : www.thairath.co.th
